ธรรมชาติและองุ่นไร้เมล็ดที่ปางอุ๋ง
เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 51
นอกจากส่งเสริมให้เกษตรกรในพื้นที่ ปลูกพืชเมืองหนาว เช่น กาแฟ พลับ อะโวกาโด แล้ว ยังมีพืชอีกชนิดหนึ่งที่ทางศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงจังหวัดเชียงใหม่ (ปางอุ๋ง) หรือ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋ง ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกคือ องุ่นไร้เมล็ด หรือ องุ่นไม่มีเมล็ด ความหมายเดียวกัน ซึ่งมีเกษตรกรที่ปางอุ๋งที่ปลูกองุ่นประสบความสำเร็จเพียงผู้เดียว เนื่องจากเพิ่งมีผู้ตัดสินใจปลูกเพียงรายเดียว และกำลังติดตามมาอีก 3 รายในไม่ช้า เนื่องจากรายได้จากผลผลิตองุ่นเป็นแรงจูงใจที่สำคัญ เพราะมันทำรายได้ให้เกษตรกรถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับการปลูกพืชผักชนิดอื่น แต่การปลูกองุ่นนั้นต้องเอาใจใส่ดูแลเป็นพิเศษมากกว่าปลูกพืชชนิดอื่นเช่นกันการปลูกองุ่นพันธุ์ “บิวตี้ ซีดเลส” (Beauty seedless) ในพื้นที่โครงการหลวงปางอุ๋ง ที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตรขึ้นไป ซึ่งมีสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็น ผลผลิตองุ่นจะมีคุณภาพสูง คือ ผลมีความกรอบ ช่อผลใหญ่ จึงเป็นที่ต้องการของตลาดและราคาสูง นอกจากนี้การปลูกองุ่นในระบบโรงเรือนของโครงการหลวงปางอุ๋งมีจุดเด่น คือ ใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชน้อยมาก จึงปลอดภัยจากสารพิษตกค้างและสามารถควบคุมคุณภาพของผลผลิตได้ดี ในขณะที่ด้านการผลิตพบว่าองุ่นมีความเหมาะสมที่จะส่งเสริมบนพื้นที่สูง เนื่องจากให้ผลตอบแทนสูงในพื้นที่จำกัด
สำหรับพันธุ์บิวตี้ ซีดเลส ทรงผลรี มีขนาดปานกลางสีดำช่อใหญ่ ออกดอกติดผลง่าย รสชาติอร่อย หวานกรอบ เป็นที่นิยมของผู้บริโภคและมีราคาแพง
ประโยชน์และคุณค่าทางอาหารขององุ่น ข้อมูลจากวีกีพีเดีย บอกไว้ว่าองุ่นมีสารอาหารที่สำคัญคือน้ำตาล และสารอาหารจำพวกกรดอินทรีย์ น้ำตาลกลูโคส น้ำตาลซูโคส วิตามินซี เหล็ก และ แคลเซียม องุ่นยังสามารถนำไปทำเป็นเหล้าองุ่น ซึ่งเป็นเหล้าบำรุง ใช้เป็นยา การรับประทานองุ่นเป็นประจำจะมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง บำรุงหัวใจ แก้กระหาย ขับปัสสาวะ บำรุงกำลัง คนที่ร่างกายผอมแห้งแรงน้อย แก่ก่อนวัย ไม่มีเรี่ยวแรง ถ้ารับประทานองุ่นเป็นประจำ จะช่วยเสริมทำให้ร่างกายค่อย ๆ แข็งแรงขึ้นได้
นอกจากองุ่นไม่มีเมล็ดแล้วที่ปางอุ๋งมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ เช่น กุหลาบพันปี ในช่วงเดือนธันวาคมถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีสามารถเข้าชมดงกุหลาบพันปีได้พร้อมกับความงดงามทางธรรมชาติที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,800 เมตร ทุ่งบัวตองบาน ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม บริเวณทางเข้าบ้านสะต็อบและบ้านผาละปิ น้ำตกปางเกี๊ยะ น้ำตก 3 ชั้นที่เข้าชมได้ทั้งปีดีดัก ถ้ำผา มะโฮง อยู่ห่างจากศูนย์ 16 กิโลเมตร เป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวหลายหมื่นตัว นอกจากนี้ ที่ปางอุ๋งยังมีวัฒนธรรมประเพณีที่น่าสนใจเช่น วัฒนธรรมปีใหม่ม้ง ระหว่างเดือนธันวาคม-มกราคม ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 2 ของทุกปี สัมผัสวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมของกะเหรี่ยงที่บ้านแม่หยอด บ้านผาละปิ บ้านห้วยขี้เปอะ และบ้านนากลาง
ผู้สนใจโทรฯไปที่ ศูนย์ส่งเสริมการเกษตรที่สูงจังหวัดเชียงใหม่ (ปางอุ๋ง) ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋ง หมู่ที่ 1 ต.แม่ศึก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ 0-5338-1326, 08-1950-9327.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 9 ธันวาคม 2551
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=184665&NewsType=1&Template=1
ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Postharvest Technology Innovation Center
เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology
