เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 51
ฟาร์มโคนมในเมืองไทยมากกว่าร้อยละ 90 เป็นการเลี้ยงในคอก โดยที่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมต้องไปตัดหญ้ามาให้โคกิน ซึ่งพื้นคอกในโรงเรือนที่เลี้ยงโคเหล่านี้มักเป็นพื้นคอนกรีตแข็ง
ทำให้กีบเท้าของโคต้องแบกรับน้ำหนักมากกว่าส่วนอื่น เท่านั้นยังไม่พอ ระหว่างเดินหรือนอนก็ยังต้องมีการเสียดสีกับพื้นที่แข็งจึงมีโอกาสเกิดการบาดเจ็บได้สูง โดยเฉพาะบริเวณข้อเข่าขาหน้า พับนอกข้อเข่าขาหลัง ก็เกิดอาการเจ็บและอักเสบจากการเสียดสีขณะล้มตัวลงนอน และขณะลุกขึ้นยืน
สิ่งที่ตามมาคือทำให้ผลผลิตหรือน้ำนมลดลง และเสียค่าใช้จ่ายในการรักษา ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดนี้เกิดความเสียหายต่อผู้เลี้ยง ฉะนั้นการจัดการพื้นคอกในโรงเรือนเพื่อให้โคอยู่อย่างสบายบนพื้นคอกเป็นแนวทางหนึ่ง ซึ่งกลุ่มนักวิจัยจากภาควิชาสัตวบาล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กำแพงแสน โดย ดร.สมเกียรติ ประสานพานิช หัวหน้าโครงการ ได้นำแผ่นยางปูพื้นที่ผลิตจากยางธรรมชาติมาใช้ในโรงเรือนเลี้ยงโค
ผลจากการทดสอบแผ่นยางปูพื้นในคอกโคดังกล่าวนั้น พบว่าประสิทธิภาพของแผ่นยางรองพื้นในคอกโคมีผลต่อการลดลงของอาการเจ็บของกีบ และบริเวณหัวเข่าด้านหน้าและข้อเข่าบริเวณขาหลังของโคที่เลี้ยงบนพื้นยางได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้โคนมมีความเป็นอยู่ในโรงเรือนที่ดีขึ้น พูดง่ายๆ ก็คืออยู่อย่างมีความสุข เพราะว่ามีข้อสังเกตคือถ้าปูพื้นยางเพียงบางส่วนในคอก ปรากฏว่าโคเลือกที่จะยืนบนแผ่นยางมากกว่ายืนบนพื้นแข็งอย่างเดิม ก็เลยสรุปพฤติกรรมความชอบของโคได้ว่าต้องการอยู่บนพื้นคอกที่นุ่ม เนื่องจากทำให้โครู้สึกสบาย ซึ่งก็คงไม่น่าแปลกใจเท่าใดนัก
ดังนั้น ผลที่ตามมาคือ โคมีสุขภาพกีบและเท้าดีขึ้น โดยเฉพาะบริเวณเท้าที่ต้องสัมผัสกับพื้นโดยตรง ซึ่งพื้นยางสามารถลดการบาดเจ็บที่บริเวณเข่าทั้งสี่ข้างที่เกิดจากการนอน และการลุกขึ้นบนพื้นคอนกรีตที่แข็งลงได้มาก ดังนั้นถ้าเอาหลักเรื่องของสวัสดิภาพสัตว์ ที่เป็นมาตรการของหลายประเทศมาใช้ในกรณีนี้ ก็คงบอกได้ว่าการใช้แผ่นยางปูพื้นคอกดังกล่าวส่งผลให้สัตว์มีสุขภาพดี ถูกต้องตามหลักการที่กำหนดได้เช่นกัน
นอกจากพื้นยางที่ปูในคอกจะทำให้โคอยู่ในโรงเรือนอย่างสบายแล้ว ผลที่ตามมาอีกอย่าง คือเกษตรกรผู้เลี้ยง ก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเท้าและกีบอีกต่อไป และยังส่งผลต่อไปถึงการให้ผลผลิตที่ดีขึ้น ซึ่งเมื่อนำไปใช้กับการเลี้ยงโคขุนก็ทำให้อัตราการเจริญเติบโตต่อวันเพิ่มขึ้นถึง 4 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ลดต้นทุนค่าอาหารต่อการเพิ่มน้ำหนัก 1 กก.ลงได้
สำหรับ แม่โครีดนมนั้น พบว่าแม่โคในกลุ่มที่เลี้ยงบนพื้นยางกินอาหารได้เพิ่มขึ้นราว 5 เปอร์เซ็นต์ และผลผลิตนมเพิ่มขึ้นราว 5 เปอร์เซ็นต์ เช่นกัน ทำให้มีรายได้จากการจำหน่ายนมเพิ่มขึ้นวันละ 6 เปอร์เซ็นต์ สรุปแล้วก็คือว่าลงทุนเรื่องแผ่นยางปูพื้นเพิ่มขึ้นอีกไม่มาก แต่ผลที่ได้ตามมานั้นคุ้มค่ามหาศาล
ที่สำคัญคือ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มจากยางพาราในประเทศได้ด้วย เพราะว่าแผ่นยางที่นำมาใช้นั้น ผลิตขึ้นจากยางธรรมชาติครับ
ที่มา : หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก วันที่ 15 ธันวาคม 2551
http://www.komchadluek.net/2008/12/15/x_agi_b001_324323.php?news_id=324323