ส่งผัก-ผลไม้บุกยุโรปตะวันออก ยึด "มิวนิค" ศูนย์กลางส่งออกสู้วิกฤติเศรษฐกิจโลก
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 51
สำหรับผัก-ผลไม้ของไทยในปัจจุบัน มีตลาดส่งออกที่สำคัญอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ซึ่งขณะนี้ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกตกต่ำโดยเฉพาะในสหรัฐเมริกา และสหภาพยุโรป หากไม่เร่งขยายตลาดใหม่เพิ่มขึ้น ปริมาณการส่งออกของผักและผลไม้ไทยอาจจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง รวมทั้งยังจะช่วยกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจของไทยที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกดังกล่าว
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ในส่วนของกรมวิชาการเกษตรนั้นจะสนับสนุนและอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบโรค แมลงศัตรูพืช และสารพิษตกค้างเพื่อออกใบรับรองปลอดศัตรูพืชกำกับไปกับสินค้าที่ส่งออก โดยจะใช้มาตรฐานในการตรวจสอบเช่นเดียวกับผัก ผลไม้ที่ส่งออกไปยังกลุ่มประเทศอียู ส่วนการบินไทยจะอำนวยความสะดวกในการขนส่ง เพื่อให้สามารถส่งออกได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งการบินไทยมีเที่ยวบินที่บินตรงไปยังเมืองมิวนิคทุกวัน
สำหรับผัก ผลไม้ที่จะส่งไปขยายตลาดในเมืองมิวนิค และยุโรปตะวันออก เช่น มังคุด มะม่วง ลำไย คาดว่าตลาดจะให้การยอมรับ เนื่องจากผัก ผลไม้ของไทยมีความสด และรสชาติดี อย่างไรก็ตามผู้ส่งออกของไทย จะต้องรักษาคุณภาพให้ได้มาตรฐานโดยผักและผลไม้ที่จะส่งออกต้องนำมาจากแปลงของเกษตรกรที่ได้รับการรับรอง GAP เท่านั้น ซึ่งขณะนี้มีแปลงของเกษตรกรที่ได้รับการรับรอง GAP จากกรมวิชาการเกษตรแล้วจำนวนกว่า 190,000 แปลงทั่วประเทศ
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 16 ธันวาคม 2551
http://www.naewna.com/news.asp?ID=138710
ศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
Postharvest Technology Innovation Center
เทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว | ข่าวเกษตร | บทความ | ฐานข้อมูลงานวิจัย | วีดีโอ | Postharvest Technology
