การผลิตต้นพันธุ์ส้มโอปลอดโรคของศูนย์วิจัยพืชสวนพิจิตร

การผลิตต้นพันธุ์ส้มโอปลอดโรคของศูนย์วิจัยพืชสวนพิจิตร

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 51

"ส้มโอปลอดโรค” จัดเป็นต้นพันธุ์ส้มโอที่ไม่มีเชื้อโรค ได้แก่ ไวรัสมายโคพลาสมาแบคทีเรียและไวรอยด์ อาศัยอยู่ภายในเนื้อเยื่อของต้นหรือกิ่งพันธุ์ เมื่อเกษตรกรได้ต้นพันธุ์ส้มโอปลอดโรคไปปลูกและมีการดูแลรักษาที่ถูกต้อง จะทำให้ต้นส้มโอมีอายุยืนยาวและให้ผลผลิตสูงกว่ากิ่งพันธุ์ที่ได้จากวิธีการตอนกิ่งที่เกษตรกรไทยนิยมมากที่สุดในขณะนี้ หน่วยงานราชการที่ได้รับผิดชอบในการผลิตต้นพันธุ์ส้มโอปลอดโรคในปัจจุบันคือ ศูนย์วิจัยพืชสวนพิจิตร สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 2 กรมวิชาการเกษตร

คุณสุดาวรรณ มีเจริญ นักวิชาการเกษตรเจ้าของโครงการฯ ได้อธิบายถึงขั้นตอนในการผลิตต้นพันธุ์ส้มโอปลอดโรค เริ่มจาก กิ่งแม่พันธุ์ส้มโอปลอดโรคที่จะใช้ตาไปติดนั้นจะต้องมีความสมบูรณ์ สังเกตที่กิ่งจะกลม มีใบแก่เต็มที่ ให้ตัดใบทิ้งทันที ตาที่ยอดจะอ่อน จะตัดถึงตาที่สามและนำยอดมาเปลี่ยนบนต้นตอได้ ส่วนตาที่โคน 1-2 ตาจะเป็นตาบอดคือไม่สามารถพัฒนาเป็นยอดได้ให้ตัดทิ้ง แต่ถ้ากิ่งพันธุ์ที่จะนำตาไปติดยังไม่ใช้ทันทีให้ห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ชุ่มน้ำ ใส่ถุงพลาสติกมัดปิดปากถุงให้แน่น เก็บรักษาไว้ในตู้เย็นจะอยู่ได้นานประมาณ 2 อาทิตย์สำหรับต้นตอส้มโอที่จะนำมาใช้ในการติดตานั้น กองโรคพืชและจุลชีววิทยาและสถาบันวิจัยพืชสวนแนะนำคือ ต้นตอส้มโอ ทรอยเยอร์และโวลคาเมอริน่า ซึ่งต้านทานโรคโคนเน่าและรากเน่าได้ดี อีกทั้งผลจากการทดลองพบว่าต้นตอทั้ง 2 ชนิดนี้สามารถเชื่อมกับยอดพันธุ์ได้ดี ส่งผลให้มีการเจริญเติบโตที่ดี ต้นตอที่จะนำมาใช้ในการติดตานั้นจะต้องมีความแข็งแรงและสมบูรณ์ มีเส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ย 0.5 เซนติเมตร ตำแหน่งที่ใช้ติดตาจะอยู่ที่ความสูงของต้นตอประมาณ 20-30 เซนติเมตร ใช้ตา 1 ตาติดแบบซิพจากนั้นใช้พาราฟิน พันตาเพื่อตรึงตาให้อยู่กับที่และใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์เนื้อเยื่อจะเจริญเชื่อมติดกัน แผลจะติดกันสนิท (สังเกตตาที่ติดจะมีสีเขียว) สำหรับวิธีการบังคับการแตกตาให้ตัดกิ่งครั้งหนึ่ง แล้วหักลงเหนือรอยติดตาประมาณ 1 นิ้วครึ่งถึง 2 นิ้ว ทำให้ตาที่ติดเจริญได้ดีขึ้นสามารถแทรกทะลุออกมาได้เอง

คุณสุดาวรรณยังได้บอกว่าปัจจุบันทางศูนย์วิจัยพืชสวนพิจิตรได้ผลิตพันธุ์ส้มโอปลอดโรคจำนวน 4 สายพันธุ์ คือ พันธุ์ทองดี, ขาวน้ำผึ้ง, ขาวแตงกวา และท่าข่อย กิ่งพันธุ์มีการดูแลรักษาอย่างดีในโรงเรือนกันแมลง จนได้ยอดพันธุ์ดีที่มีความยาวไม่ต่ำกว่า 30 เซนติเมตร (ความสูงทั้งต้นไม่ต่ำกว่า 60 เซนติเมตร) สภาพต้นแข็งแรง มีใบแก่เต็มที่ มีระบบรากที่แข็งแรง (มีรากแก้ว) และเป็นพันธุ์ที่ปราศจากโรคกรีนนิ่ง, โรคทริสเทซ่าและโรครากเน่าและโคนเน่า ในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2544-2550 ทางศูนย์วิจัยได้มีบริการต้นพันธุ์ส้มโอปลอดโรคให้เกษตรกรไปปลูกนับหมื่นต้นและจำหน่ายในราคาเพียงต้นละ 45 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับต้นพันธุ์ส้มโอปลอดโรคติดต่อได้ที่ศูนย์วิจัยพืชพิจิตร โทร. 0-5661-2352.

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 28 มกราคม 2551
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=152874&NewsType=1&Template=1

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รวมอาชีพเกษตรกรรม ทำง่ายรายได้งาม ปี 2551

ม.บูรพาต่อยอดงานวิจัย "หิ้งสู่ห้าง" เพิ่มมูลค่า "ปลาสลิด" บ้านแพ้ว

กรมข้าวเตือนนครนายกเฝ้าระวัง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลระบาดที่นา

ลดพิษของโลหะหนักในปลาด้วยวิตามินซี

เร่งปลูกถั่วเขียว พันธุ์ "ชัยนาท 80" นำร่องเหนือล่าง

ไทยเยี่ยมโคลนนิ่งกระทิงป่าได้สำเร็จ

"เจริญ คุ้มสุภา" ปลูกมะม่วงนอกฤดูขายญี่ปุ่น