เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 53
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เผยว่า การลดต้นทุนการผลิตสินค้าเกษตร เป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงจัดทำมาตรการลดต้นทุนการผลิตสินค้าเกษตรในรายสินค้า 11 ชนิด แบ่งออกเป็นกลุ่มพืช ได้แก่ ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง อ้อยโรงงาน ยางพารา และปาล์มน้ำมัน กลุ่มปศุสัตว์ ได้แก่ โคเนื้อ และโคนม แพะเนื้อ กลุ่มประมง ได้แก่ ปลานิล และกุ้งขาว ทั้งนี้การดำเนินการในเบื้องต้นจะนำร่องมาตรการลดต้นทุนใน 3 สินค้าที่อยู่ในโครงการประกันรายได้เกษตรกร คือ ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลัง โดยดำเนินการใน 3 ปัจจัยการผลิตหลัก ได้แก่ ปุ๋ย พันธุ์ และเครื่องจักรกลการเกษตร ซึ่งจะมีการพิจารณาคัดเลือกพื้นที่นำร่อง ให้เกิดความชัดเจนภายในเดือนหน้า
นายธีระ กล่าวต่อไปว่า สำหรับรายละเอียดของแนวทางการลดต้นทุนการผลิตสินค้าเกษตร จะมีการกำหนดขั้นตอนชัดเจนว่าจะดำเนินการลดต้นทุนในขั้นตอนต่างๆ อาทิ สินค้าข้าว มีแนวทางการปรับปรุงการปฏิบัติที่ดี 3 ส่วน คือ ส่วนแรก อัตราเมล็ดพันธุ์ข้าว ต้องลดหรือเปลี่ยนวิธีปลูก โดยนาหว่านใช้อัตรา 15-20 กิโลกรัมต่อไร่ ปักดำด้วยเครื่องจักร ใช้อัตรา 5-7 กิโลกรัมต่อไร่ โยนกล้า ใช้อัตรา 4-5 กิโลกรัมต่อไร่ ควบคู่ไปกับการฝึกอบรมเกษตรกรและจัดทำแปลงนำร่องเพื่อเรียนรู้ร่วมกัน ส่วนที่สอง การเตรียมดิน จะถ่ายทอดเทคโนโลยีการใช้เครื่องจักรลักษณะขลุบหมุนติดรถแทรกเตอร์ขนาดเล็ก เพื่อลดรอบการไถเตรียมดิน และส่วนที่สาม การใช้ปุ๋ย จะต้องเป็นไปตามคำแนะนำ ใช้ในช่วงระยะที่ถูกต้องตรงความต้องการ เพื่อลดอัตราการใช้ปุ๋ยและลดค่าใช้จ่าย นอกจากนั้น เพื่อให้มาตรการลดต้นทุนการผลิตสินค้าเกษตรสามารถพิสูจน์วัดผล และแสดงให้เห็นถึงค่าทางตัวเลขต้นทุนที่ลดลงหรือเพิ่มขึ้นต่อหน่วยได้อย่างชัดเจน จึงมีการจัดทำตัวชี้วัดขึ้น โดยมีพื้นฐานที่ว่า ต้นทุนการผลิตต่อไร่และผลผลิตต่อไร่อาจเพิ่มขึ้นหรือเท่าเดิมก็ได้ แต่ต้นทุนต่อหน่วยต้องลดลงเท่านั้น ส่วนวิธีการวัดผล จะใช้การเปรียบเทียบระหว่าง 2 กลุ่ม หรือรายเดียวกันแต่แบ่งเป็น 2 แปลง คือ กลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีเดิม กับกลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ในปีเดียวกัน
ในส่วนของงบประมาณที่จะใช้ในการดำเนินการ จะใช้งบปกติที่มีอยู่เดิม และขอสนับสนุนจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรอีกส่วนหนึ่ง ตลอดจนของบประมาณเพิ่มเติมในปี 2554-2555 จากสำนักงบประมาณ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนการดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 2 มีนาคม 2553
http://www.naewna.com/news.asp?ID=201537