เมื่อวันที่ 9 เมษายน 53
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เร่งรัดจัดทำโครงการจัดระบบการปลูกข้าวเพื่อให้มีการปลูกข้าวปีละไม่เกิน 2 ครั้ง โดยงดเว้นการปลูกข้าวแบบต่อเนื่องทั้งปี เพื่อให้มีการใช้น้ำไม่เกินปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่ ขณะเดียวกันยังเป็นการตัดวงจรการระบาดศัตรูข้าวและรักษาระบบนิเวศน์ในนาข้าวให้มีความสมดุล โดยมีเป้าหมายดำเนินการในระยะแรกในพื้นที่ 22 จังหวัด อาทิ กำแพงเพชร เชียงราย นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย อุทัยธานี ชัยนาท ปทุมธานี อยุธยา ลพบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง โดยมีเกณฑ์ที่ใช้เป็นกรอบในการคัดเลือก คือ มีพื้นที่ตั้งแต่ 1 แสนไร่ขึ้นไป หรือเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดหรือใกล้เคียงกับการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล รวมทั้งเป็นพื้นที่ในเขตชลประทาน
ทั้งนี้ ระบบการปลูกข้าวตามช่วงเวลาใหม่ แบ่งเป็น 4 ระบบ คือ 1.ข้าวรอบที่ 1-ข้าวรอบที่ 2-พืชหลังนา 2.ข้าวรอบที่ 1-ข้าวรอบที่ 2-เว้นปลูก 3.ข้าวรอบที่ 1-พืช หลังนา-ข้าวรอบที่ 2 และ 4.ข้าวรอบที่ 1-เว้นปลูก-ข้าวรอบที่ 2
ส่วนมาตรการในการบริหารการดำเนินงาน จะมีทั้งมาตรการบังคับ เช่น การบริหารจัดการน้ำ โดยกำหนดให้มีการจัดสรรน้ำในการปลูกข้าวตามช่วงเวลาปลูกข้าวตามแผนของระบบ การปลูกข้าว และการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรกรณีประสบภัยพิบัติ เป็นต้น ส่วนมาตรการจูงใจนั้นรัฐจะให้การสนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืชหลังนา เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วลิสง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมถึงการจัดหาตลาดรองรับผลผลิตพืชหลังนาที่ได้จากการจัดระบบการปลูกข้าว
"จากมาตรการปรับระบบการปลูกข้าว จะส่งผลทำให้เกษตรกรและประเทศสามารถลดความเสี่ยงต่อสภาวะขาดแคลนน้ำในฤดูแล้งปีถัดไป และลดปริมาณการใช้น้ำในการปลูกข้าวได้ฤดูละประมาณ 1,200 - 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อไร่ ขณะเดียวกันยังทำให้เกษตรกรมีเวลาพักดิน เป็นการตัดวงจรโรคและแมลง" นายธีระกล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ก่อนจะมีการดำเนินการ จะต้องนำเสนอต่อคณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการผลิตพิจารณาให้ความชอบ รวมทั้งจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากเกษตรกร ก่อนเสนอคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 9 เมษายน 2553
http://www.naewna.com/news.asp?ID=206650