เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 53
นายอภิชาติ พงษ์ศรีหดุลยชัย ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการผลิต โดนมีนายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานได้มีมติเห็นชอบโครงการจัดระบบปลูกข้าวเรียบร้อยแล้ว โดยในเบื้องต้นได้กำหนดระยะเวลาโครงการ เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายนของปีถัดไป โดยมีระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี ตั้งแต่ปี 2554 - 2556 โดยใช้งบประมาณรวม 2,180 ล้านบาท ซึ่งจะเน้นในมาตรการการบริหารจัดการน้ำที่จะจัดให้มีระเบียบ หรือข้อบังคับในการจัดสรรน้ำ ปลูกข้าวตามช่วงเวลาการปลูกข้าวตามแผนของระบบการปลูกข้าว โดยแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อพิจารณากำหนดพื้นที่เพาะปลูกให้เกษตรกรเป็นรายโครงการชลประทาน และควบคุมการระบายน้ำจากแหล่งน้ำต้นทุน และมีการใช้สิทธิประกันรายได้ของเกษตรกร เกษตรกรจะไม่ได้รับสิทธิประกันรายได้หากเกษตรกรไม่ปลูกข้าวตามเงื่อนไขหรือ ระยะเวลาที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนด
อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญ คือ มาตรการจูงใจจะมีการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืชหลังนา พืชปุ๋ยสด แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจัดหาตลาดเพื่อรองรับผลผลิตพืชหลังนาที่ได้จากการจัดระบบการปลูกข้าว การจัดให้การทำตลาดข้อตกลงสร้างตลาดในระดับท้องถิ่น และมีการเชื่อมโยงตลาดระหว่างผู้ซื้อกับผู้ผลิต
นายอภิชาติ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทั้งนี้ มาตรการปรับระบบการปลูกข้าวจะส่งผลทำให้เกษตรกรและประเทศสามารถลดความเสี่ยงต่อสภาวะขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง และลดปริมาณการใช้น้ำในการปลูกข้าวได้ฤดูละประมาณ 1,200 - 1,500 ลูกบาศก์เมตร ขณะเดียวกัน ยังทำให้เกษตรกรได้มีเวลาพักดินที่จะเป็นการตัดวงจรโรคและแมลง ซึ่งจะเป็นการลดภาระงบประมาณของรัฐบาลในการช่วยเหลือกรณีเกิดภัยพิบัติต่างๆ ได้อีกทางหนึ่ง และที่สำคัญยังช่วยลดต้นทุนในการผลิตข้าวของชาวนา ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกข้าวไปต่างประเทศอีกด้วย อย่างไรก็ตามขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ อยู่ในระหว่างการนำเสนอโครงการจัดระบบการปลูกข้าวเข้าสู่คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ภายในเดือนนี้ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 7 มิถุนายน 2553
http://www.naewna.com/news.asp?ID=214143