ฟาร์มไก่ไข่ ใช้นวัตกรรมใส่ใจสิ่งแวดล้อม
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 53
ฟาร์มไก่ไข่ ใช้นวัตกรรมใส่ใจสิ่งแวดล้อม
การทำการเกษตรต้องทำด้วยความเอาใจใส่ ขยันหมั่นเพียร จึงจะประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ยังต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรม หรือเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะทำให้ทุ่นเวลา ทุ่นแรงงาน ส่งผลดีในระยะยาว เหมือนคนที่นำเสนอในวันนี้ เป็นเกษตรกรที่มีคุณสมบัติดั่งที่ว่ามาคนนั้นคือ
นายเจียดฉพร บุญรักศรพิทักษ์ เจ้าของธนโชติฟาร์ม ตั้งอยู่ เลขที่ 99 หมู่ 5 ต.ท่างาม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เป็นฟาร์มปศุสัตว์อีกแห่งหนึ่งที่นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการเลี้ยงไก่ไข่ 36,000 ตัว ทั้งระบบโรงเรือนปิดปรับอากาศด้วยการระเหยของน้ำ หรือ Evaporative cooling system (EVAP-อีแวป) ทั้งระบบการเก็บไข่ไก่โดยใช้สายพาน และระบบให้อาหารแบบเครน (Hopper 80 kg.) ซึ่งที่กล่าวมานั้นเป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการนำระบบบำบัดของเสียด้วยระบบก๊าซชีวภาพ หรือไบโอแก๊ส (Biogas) มาใช้ ซึ่งนอกจากจะช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมทั้งเรื่องกลิ่น และแมลงวันแล้ว ยังช่วยต้นทุนที่ลดลงการเลี้ยง ทั้งยังได้ผลพลอยได้จากการขาย “มูลแห้ง” หลังจากการบำบัดได้ด้วย
นายเจียดฉพร เล่าว่า เริ่มต้นชีวิตการทำงานด้วยการเป็นพนักงานบริษัทเอกชน รายได้ต่อเดือนประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท ก็นับว่าไม่ลำบากอะไร แต่ก็อยากมีอาชีพเป็นของตนเอง จึงได้ศึกษาดูว่ามีอาชีพอะไรที่พอจะทำได้และเหมาะกับตัวเอง ประกอบกับโดยพื้นฐานเดิมก็คลุกคลีอยู่ในแวดวงการเกษตร พ่อกับแม่ก็เป็นเกษตรกร เลี้ยงปลา เลี้ยงหมู โดยส่วนตัวก็มีใจรักอาชีพเกษตรอยู่แล้ว เลยตัดสินใจศึกษาอาชีพนี้อย่างจริงจังอยู่นานประมาณ 2-3 ปี เห็นว่าการเลี้ยงไก่ไข่เป็นอาชีพที่น่าสนใจ ยิ่งเมื่อเห็นเกษตรกรที่อยู่ในโครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงไก่ไข่แก่ เกษตรกรรายย่อยหรือคอนแทรคฟาร์มมิ่ง (Contract Farming)จึงตัดสินใจลงทุนเลี้ยงไก่ไข่ เพราะจะว่าไปแล้วประเทศไทยของเราเป็นประเทศเกษตรกรรม และคนเราก็ต้องบริโภคไข่ทุกวันอยู่แล้ว อีกอย่างหนึ่งการเลี้ยงไก่ไข่ก็เป็นอาชีพที่อิสระ ถ้าหันมาทำอาชีพนี้เป็นของตัวเองก็น่าจะกลายเป็นอาชีพที่ยั่งยืนต่อไปได้อย่างแน่นอน
แม้การลงทุนสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ที่ใช้ระบบการเลี้ยงที่ทันสมัย จะต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง แต่เขาก็คิดว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เนื่องจากระบบเหล่านี้มีส่วนเป็นอย่างมากที่จะช่วยส่งเสริมให้คุณภาพผลผลิตและประสิทธิภาพการผลิตอยู่ในระดับที่ดี เห็นได้จากการให้ไข่ของแม่ไก่ที่มีปริมาณไข่ไก่ออกสู่ตลาดสูงถึง 35,000 ฟองต่อวัน หรือคิดเป็น 96% และพบว่าแม่ไก่ไข่ที่อยู่ในระบบควบคุมการระบายอากาศในระบบปิดยังให้ไข่ที่มีคุณภาพเปลือกที่อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี แม้ว่าจะยืนกรงมานานเกิน 56 สัปดาห์ ก็ตาม
“ฟาร์มของเรามีเคล็ดลับในการเลี้ยงไก่ไข่คือ การเปิดเพลงให้ไก่ฟัง เพื่อให้คุ้นเคยและชินกับเสียง ทำให้ไม่ตื่นตกใจเวลาที่มีเสียงดัง เช่น ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า เพราะถ้าไก่เกิดตกใจก็จะมีผลเสียต่อผลผลิตไข่ในทันที ส่วนหัวใจที่จะนำไปสู่ความสำเร็จที่ผมยึดถือปฏิบัติมาตลอดคือ การทำเกษตรจะต้องมีใจรักและเอาใจใส่ต่องานที่เราทำ ด้วยการหมั่นคอยดูแลอย่างใกล้ชิด สำหรับผมแล้วการเลี้ยงไก่ไข่ตลอด 3 ปี ที่ผ่านมาผมสามารถสรุปกับตัวเองได้แล้วว่า การเลี้ยงไก่ไข่สร้างรายได้ที่น่าพอใจ และเป็นอาชีพที่มั่นคง”
เจียดฉพร บอกเล่าถึงเคล็ดลับความสำเร็จที่พี่น้องเกษตรกรสามารถนำไปใช้ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของตนเองที่จะพัฒนาไปสู่อาชีพที่ยั่งยืนได้อย่างแท้จริง.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 15 มิถุนายน 2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=582&contentID=71973
ข่าวที่เกี่ยวข้อง นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง