มะม่วงลูกผสมพันธุ์ 'ยู่เหวิน'
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 53
มะม่วงลูกผสมพันธุ์ 'ยู่เหวิน'
มะม่วงพันธุ์ “ยู่เหวิน” มีถิ่นกำเนิดที่ไต้หวันและเป็นมะม่วงลูกผสมระหว่างพันธุ์ จินหวง กับมะม่วงพันธุ์ “อ้ายเหวิน” (มะม่วงอ้ายเหวินเป็นมะม่วงสายพันธุ์เดียวกับพันธุ์เออร์วิน) มะม่วงลูกผสมสายพันธุ์นี้ได้มีการนำยอดพันธุ์มาเสียบยอดในประเทศไทยประมาณ 4-5 ปีมาแล้ว
คุณเสน่ห์ ลมสถิตย์ เกษตรกร อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ได้นำมาเผยแพร่ให้เกษตรกรได้ขยายพื้นที่ปลูกเนื่องจากต้นพันธุ์ที่ปลูกในสวน ได้เริ่มให้ผลผลิตแล้ว ผลปรากฏว่าเป็นมะม่วงที่มีลักษณะเด่นและรสชาติดี คือ มีผลขนาดใหญ่ น้ำหนักผลเฉลี่ย 1-1.5 กิโลกรัม บริโภคได้ทั้งดิบและสุก ในระยะผลดิบหรือห่ามจะมีรสชาติหวานมัน (ไม่มีเปรี้ยวปน) ระยะผลสุกเนื้อจะมีรสชาติหวานหอม, ไม่เละ, ไม่มีเสี้ยนและไม่มีกลิ่นขี้ไต้ ที่สำคัญสีของผลมีสีม่วงเข้มดึงดูดใจแก่ผู้พบเห็น จัดเป็นมะม่วงแปลกและหายาก ปลูกและให้ผลผลิตได้ในประเทศไทย
คุณเสน่ห์บอกว่ามะม่วงพันธุ์ยู่เหวิน เป็นมะม่วงอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ปลูกง่าย และเริ่มให้ผลผลิตเมื่อต้น มีอายุเฉลี่ยได้ 3-4 ปี จากการสังเกตพบว่าออกดอกและติดผลดีทุกปีแต่ยังไม่มีการทดลองว่าตอบสนองต่อสารแพคโคลบิวทราโซล เพื่อบังคับให้ออกดอกและ ติดผลนอกฤดูได้หรือไม่อย่างกรณีของมะม่วงพันธุ์ต่างประเทศสายพันธุ์อื่น เช่น พันธุ์อาร์ทูอีทูและพันธุ์เคน ซิงตันไพรด์ จากประเทศออสเตรเลีย ปลูกให้ผลผลิตดีและขายได้ราคาดีในบ้านเรา แต่แตกต่างกันตรงที่พันธุ์เคน ซิงตันไพรด์ตอบสนองต่อสารแพคโคลบิวทราโซลบังคับให้ออกนอกฤดูได้และให้ผลผลิตดกมาก ในขณะที่พันธุ์อาร์ทูอีทูไม่ตอบสนองเท่าที่ควรจะต้องปล่อยให้ออกดอกและติดผล ตามฤดูกาล แต่ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาราคาผลผลิตของมะม่วงอาร์ทูอีทูไม่เคยตกขายผลผลิตจากสวนได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 40-50 บาท
ปัจจุบันมะม่วง จัดเป็นไม้ผลที่มีเกษตรกรขยายพื้นที่ปลูกมากที่สุดชนิดหนึ่งและพื้นที่หลักที่ปลูกพันธุ์น้ำดอกไม้สีทองเพื่อการส่งออกอยู่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา นครราชสีมา อุดรธานี เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ พิษณุโลกและพิจิตร เป็นต้น จะต้องยอมรับกันว่าในช่วง 3-4 ปี ที่ผ่านมา มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองมีราคาดีมากดีกว่าไม้ผลอีกหลายชนิด ทำให้พื้นที่ปลูกมะม่วงกินดิบหรือมะม่วงมันลดน้อยลง ทำให้ในบางปีมะม่วงกินดิบซึ่งคนไทยนิยมบริโภคมีราคาสูงขึ้นอย่างเช่น พันธุ์เขียวเสวย มันขุนศรี ฯลฯ
มีคำแนะนำว่าการขยายพื้นที่ปลูกมะม่วงในอนาคต เกษตรกรควรจะแบ่งพื้นที่ไว้ปลูกมะม่วงกินดิบหรือมะม่วงสายพันธุ์ต่างประเทศ บ้างเพื่อลดความเสี่ยงทางการตลาดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต อย่างกรณีของมะม่วงพันธุ์ยู่เหวินจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการปลูกมะม่วงในประเทศไทย.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 16 กรกฎาคม 2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=482&contentID=78264
ข่าวที่เกี่ยวข้อง นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง