เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 53
นายอรรถ อินทลักษณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า หน่อไม้ฝรั่งเป็นพืชผักที่มีศักยภาพในการส่งออก มีแนวโน้มในการส่งออกที่ดี โดยเฉพาะการส่งออกผลผลิตสด และยังเป็นพืชผักทางเลือกอีกชนิดหนึ่งของเกษตรกรที่ให้ผลตอบแทนสูง การส่งเสริมการปลูกหน่อไม้ฝรั่งในประเทศไทยเริ่มในปี 2530 โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรรับผิดชอบและศึกษาความเป็นไปได้ในการส่งเสริมการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง รวมทั้งพิจารณาหาพื้นที่ที่เหมาะสมในการดำเนินการ ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรได้เริ่มดำเนินงานโครงการส่งเสริมการผลิตหน่อไม้ฝรั่งในรูปแบบครบวงจร โดยมีบริษัท ธานียามา สยาม จำกัด เป็นผู้รับซื้อและทำสัญญาซื้อขายกับกลุ่มเกษตรกรและประกันราคารับซื้อ ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ ในปัจจุบันผู้ส่งออกมีความต้องการหน่อไม้ฝรั่งหน่อเขียวสดเพิ่มขึ้น จนทำให้ผลผลิตที่ได้ไม่เพียงพอกับความต้องการ จึงต้องเร่งรัดในการเพิ่มปริมาณผลผลิตและการปรับปรุงคุณภาพของผลผลิตให้ได้มาตรฐาน และมีผลผลิตที่สม่ำเสมอโดยปฏิบัติตาม GAP รวมถึง หาเทคโนโลยีและวิธีการในการลดต้นทุนการผลิต เพื่อให้สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งอื่นได้
สำหรับสถานการณ์การผลิตของประเทศไทยในปัจจุบัน แหล่งผลิตหน่อไม้ฝรั่งที่สำคัญอยู่ในภาคตะวันตก มีพื้นที่ปลูกรวม 11,000 ไร่ เกษตรกรประมาณ 5,000 ราย เป็นการผลิตหน่อไม้ฝรั่งชนิดหน่อเขียว กระจายใน 4 จังหวัด ได้แก่ นครปฐม กาญจนบุรี ราชบุรีและสุพรรณบุรี โดยล่าสุดกรมส่งเสริมการเกษตรได้จัดให้กลุ่มเกษตรกรรวม 19 กลุ่มใน 3 จังหวัด ยกเว้นสุพรรณบุรีได้มีการลงนามสัญญาซื้อขายหน่อไม้ฝรั่งในปี 2553/2554 ขึ้นกับ บริษัท ธานียามา สยาม จำกัด ซึ่งคาดว่าจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่น และแรงผลักดันให้เกษตรกรมั่นใจในอาชีพและสินค้าเกษตรไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างไร้ขีดจำกัด รวมถึงรูปแบบการทำสัญญาข้อตกลงล่วงหน้า(Contract Farming) ในครั้งนี้จะนำไปสู่การขยายการดำเนินการในพืชชนิดอื่นที่มีแนวโน้มการตลาดที่ดีในอนาคต
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 9 สิงหาคม 2553
http://www.naewna.com/news.asp?ID=222756