เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 53
นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เผยว่า จากกรณีที่ประเทศไทยมีพันธะกรณีที่จะต้องยกเลิกโควตานำเข้า และลดภาษีสินค้าเกษตรภายใต้ข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน หรือ อาฟต้า (AFTA) ซึ่งประเทศไทยมีสินค้าเกษตรจำนวน 23 รายการที่ต้องยกเลิกโควตา และลดภาษีเป็น 0% ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม เป็นต้นมา โดยขณะนี้ได้ประกาศยกเลิกแล้ว 13 รายการ เหลืออีก 10 รายการอยู่ระหว่างดำเนินการ
ทั้งนี้จากข้อมูลการค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทยกับอาเซียน พบว่า ในปี 2551 ไทยส่งออกสินค้าเกษตรไปยังอาเซียนประมาณ 146,000 ล้านบาท ขณะที่การนำเข้าสินค้าจากอาเซียนมีเพียงประมาณ 44,400 ล้านบาท ไทยได้เปรียบดุลการค้าประมาณ 102,000 ล้านบาท ในภาพรวมจึงถือว่าไทยจะได้ประโยชน์มากกว่าในการเปิดเสรีการค้าไทยอาเซียน เนื่องจากไทยมีศักยภาพการผลิตสูงกว่าประเทศในอาเซียน
นายอภิชาต กล่าวอีกว่า สศก. ได้ติดตามสถิติการนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตร ภายหลังการเปิดเสรีการค้าอาเซียน เมื่อวันที่ 1 มกราคม-พฤษภาคม พบว่า มูลค่าการค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทยกับอาเซียนคิดเป็นจำนวน 99,394 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ามูลค่าการค้าในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 54.90 % แบ่งเป็นมูลค่าการส่งออก 81,729 ล้านบาท มูลค่าการนำเข้า 17,665 ล้านบาท โดยไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้าประมาณ 64,064 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มสินค้าที่ไทยขยายการส่งออกมากขึ้น เช่น ข้าวและธัญพืช มีมูลค่าการส่งออกจำนวน 15,146 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 104%
นอกจากนี้ ยังมีการคาดว่า ผลจากการที่อาเซียนจะลดภาษีเป็น 0% ทำให้ GDP ของไทยในปี 2558 เพิ่มขึ้น 1.75% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 204,000 ล้านบาท โดยผลดีจากการเปิดเสรีสินค้าเกษตรในกรอบอาฟต้า คือ ไทยสามารถส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนได้มากขึ้น และสินค้าวัตถุดิบนำเข้ามีราคาถูกลง ทำให้ลดต้นทุนการผลิตเพื่อส่งออก อย่างไรก็ตามเกษตรกรและผู้ประกอบไทยการไทยก็ไม่ควรประมาท ต้องมีการเตรียมพร้อมและตื่นตัว และมีการปรับตัวด้านการผลิตเพื่อให้สามารถแข่งขันได้
อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ ได้เตรียมมาตรการต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางรองรับการปรับตัวของภาคเกษตรและภาคเอกชนที่อาจจะได้รับผล กระทบจากการเปิดเสรีอาฟต้า รวมถึงการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการบริหารการนำเข้าและควบคุมการนำเข้า เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะตามมา
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 9 สิงหาคม 2553
http://www.naewna.com/news.asp?ID=222757