หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน
ชงยุทธศาสตร์กุ้งไทยฉบับที่ 2 เข้าครม.
เมื่อวันที่ 10 กันยายน 53
ชงยุทธศาสตร์กุ้งไทยฉบับที่ 2 เข้าครม.
ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารสินค้ากุ้งและผลิตภัณฑ์ มีมติให้จัดทำยุทธศาสตร์กุ้ง ฉบับที่ 2 เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการพัฒนาอุตสาหกรรมกุ้ง ซึ่งกรมประมงได้ยกร่าง “ยุทธศาสตร์กุ้ง ฉบับที่ 2” ขึ้นและได้ร่วมกับศูนย์วิจัย เศรษฐศาสตร์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นำร่างยุทธศาสตร์กุ้งฉบับที่ 2 เข้าสู่เวทีประชาพิจารณ์อย่างเป็นทางการ และผ่านความเห็นชอบแล้วตามกระบวนการจัดทำยุทธศาสตร์
ยุทธศาสตร์กุ้งไทยฉบับที่ 2 จะเป็นยุทธศาสตร์เพื่อการพัฒนาเชิงรุกและเป็นเอกภาพ ภายใต้วิสัยทัศน์ “กุ้งไทยพัฒนา นำพาเศรษฐกิจชาติ ผลิตได้มาตรฐานตลาด รักษ์ธรรมชาติยั่งยืน” โดยมุ่งเน้นการพัฒนาอุตสาหกรรมกุ้งไทยในฐานะผลิตภัณฑ์ของประเทศที่สร้างรายได้ให้กับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ผ่านมิติแห่งการพัฒนา 5 ด้าน ประกอบด้วย การเพิ่มศักยภาพพื้นที่การเลี้ยงและสายพันธุ์การเพิ่มศักยภาพการผลิตตาม มาตรฐานสากล การเพิ่มมูลค่าสินค้ากุ้งหลังการเก็บเกี่ยวการเพิ่มศักยภาพการตลาดในทุกระดับและการผลักดันการวิจัยเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมกุ้ง
“ทั้งนี้การตลาดนำการผลิต ยังคงใช้เป็นแนวทางสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมกุ้งไทยเชิงรุกในระยะสั้นระหว่างปี 2553-2556 ซึ่งกรมประมงได้ดำเนินการปรับกรอบและแผนการดำเนินงานตามมติคณะกรรมการฯ ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย ขณะนี้พร้อมที่จะนำเข้าสู่คณะรัฐมนตรีเพื่อที่จะขอความเห็นชอบแล้ว” ดร.สมหญิง กล่าว
อธิบดีกรมประมง เปิดเผยเพิ่มเติมด้วยว่ากุ้งเป็นสินค้าประมงที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย มีผลผลิตถึง ปีละ 5.0-5.5 แสนตัน คิดเป็นร้อยละ 28 ของผลผลิตโลก โดยผลผลิตกว่าร้อยละ 90 ของประเทศไทย เป็นการส่งออกไปยังต่างประเทศ ทั้งในรูปของกุ้งแช่เย็น แช่แข็งและกุ้งแปรรูป ซึ่งการเพาะเลี้ยงกุ้งในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นกุ้งขาวแวนนาไมร้อยละ 99 ส่วนกุ้งกุลาดำมีเพียงร้อยละ 1 ทั้งนี้ อุตสาหกรรมกุ้งก็ยังเป็นที่จับตามองของหลาย ๆ ฝ่าย เนื่องจากเป็นอาชีพเกษตรกรรมที่เข้าสู่ระบบธุรกิจครบวงจรผลดำเนินการในแต่ละปีสามารถนำเม็ดเงินเข้าประเทศปีละเหยียบแสนล้านบาท รัฐบาลทุกสมัยจึงให้ความสำคัญกับสินค้ากุ้งเป็นอย่างยิ่ง โดยที่ผ่านมาอุตสาหกรรมกุ้งไทย ได้ดำเนินการพัฒนาตามกรอบแนวทางของยุทธศาสตร์กุ้ง ฉบับที่ 1 โดยยึดหลักตลาดนำการผลิต.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 10 กันยายน 2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=339&contentID=90719
ข่าวที่เกี่ยวข้อง นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง