หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน
เกษตรกรไทยร้องขอรัฐสนับสนุนสู้เขตการค้าเสรี
เมื่อวันที่ 22 มกราคม 53
เกษตรกรไทยร้องขอรัฐสนับสนุนสู้เขตการค้าเสรี
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือการเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียน ให้แก่เกษตรกร เจ้าหน้าที่ภาครัฐ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยในช่วงเดือนธันวาคม 2552 ได้เดินสายจัดสัมมนาและเปิดเวทีสาธารณะเพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วน ได้ส่วนเสีย จากการเปิดตลาดสินค้าเกษตรเขตการค้าเสรีอาเซียนขึ้นใน 4 ภาคของประเทศ โดยภาคกลาง จัดที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระ แก้ว ภาคเหนือ จัดที่ อ.เมือง จ.เชียงราย ภาคะวันออกเฉียงเหนือ จัดที่ อ.เมือง จ.หนองคาย และภาคใต้ จัดที่ อ.เมือง จ.กระบี่
ในส่วนสาระสำคัญของการจัดสัมมนานั้น เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับเขตการค้าเสรีอาเซียน และชี้แจงถึงมาตรการรับมือในสินค้าเกษตร 23 รายการ อาทิ น้ำนมดิบ นมพร้อมดื่ม นมผงขาดมันเนย หอมหัวใหญ่ ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์ม น้ำมัน และเมล็ดถั่วเหลือง เป็นต้น ซึ่งสินค้าเกษตรเหล่านี้จะต้องยกเลิกโควตา และลดภาษีนำเข้าเหลือร้อยละ 0 (ยกเว้น มันฝรั่ง เมล็ดกาแฟ และเนื้อมะพร้าวแห้ง ที่จัดเป็นสินค้าอ่อนไหว และยังคงอัตราภาษีนำเข้าที่ร้อยละ 5)
ซึ่งการสัมมนาจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความเห็นและประสบการณ์จากตัวแทนเกษตรกร และตัวแทนภาคเอกชนในแต่ละจังหวัด โดยผลจากการจัดสัมมนาทั้ง 4 ภาค จะดำเนินการสรุปผลเพื่อรายงานต่อคณะทำงานเฉพาะกิจด้านมาตรการสินค้าเกษตรภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน สำหรับใช้ในการติดตามและปรับปรุงมาตรการทางการค้าระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศ อาเซียน และจัดทำเป็นเอกสารเผยแพร่ให้แก่ผู้เกี่ยวข้องต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากผลการจัดสัมมนาทั้ง 4 ภาค พบว่า เกษตรกรและผู้ประกอบการ เห็นว่าภาคเกษตรของไทยมีความพร้อมในระดับหนึ่ง สามารถพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพการแข่งขันได้ เพื่อให้ไทยได้เปรียบทางการค้ากับต่างประเทศ โดยต้องมีการสนับสนุนจากภาครัฐในด้านต่าง ๆ เช่น การจัดหาแหล่งน้ำ พัฒนาระบบชลประทาน การพัฒนาพันธุ์ดีที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และสภาพภูมิอากาศให้ผลผลิตสูง ทนต่อโรคระบาด แมลงศัตรูพืช และไม่ให้มีเมล็ดพันธุ์ปลอมปน รวมถึงการควบคุมราคาปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ย ยาปราบวัชพืช ยากำจัดศัตรูพืช เพื่อลดต้นทุน และส่งเสริมความรู้ความเข้าใจแก่เกษตรกรในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และพัฒนาคุณภาพมาตรฐานผลผลิต ตลอดจนส่งเสริมการผลิตสินค้ามูลค่าเพิ่มและหลากหลาย ให้สนองความต้องการตลาด.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 22 มกราคม 2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=339&contentID=44093
ข่าวที่เกี่ยวข้อง นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง