เมื่อวันที่ 23 กันยายน 53
ขณะที่ชาวสวนผลไม้หลายแห่งทั้งในภาคตะวันออกและภาคใต้ โดยเฉพาะ "ลองกอง" ต่างประสบปัญหาราคาตกต่ำซากซาก ปีแล้วปีเล่า แต่ผลผลิตผลลองกองใน "ไร่อ่างทอง" ของโกกิม "สมคิด คงเสรีนนท์" เกษตรกรวัย 60 ปี ผู้กว้างขวางในวงการเกษตร จากหมู่ 1 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง กลับมีราคาดี ซื้อจากสวนกิโลกรัมละ 40-50 บาท ปลูกในพื้นที่เพียง 23 ไร่ มีรายได้ปีละกว่า 2 ล้านบาท เนื่องจากผลผลิตดี รสชาติอร่อย เพราะยึดหลัก 3 ข้อ "ต้องสายพันธุ์ดี-ต้องดินดี-ต้องดูแลรักษาดี" ทำให้ผลผลิตสมบูรณ์จนได้รับรางวัลดีเด่นมากมาย
สมคิด หรือ "โกกิม" บอกว่า ได้บุกเบิกทำสวนผสมผสานมาตั้งปี 2531 หรือ 22 ปีก่อน ในพื้นที่ 23 ไร่ ใช้ชื่อสวนว่า "ไร่อ่างทอง" มีลองกองมากที่สุดประมาณ 800 ต้น ส่วนที่เหลือก็จะเป็นมังคุด ประมาณ 30 ต้น รวมทั้งกล้วยและผลไม้อื่นๆ อีกสารพัด ส่วนลองกองซึ่งเป็นผลไม้หลักในไร่แห่งนี้ เป็นพันธุ์หอม ซึ่งได้จากการที่เขาลงทุนไปตระเวนหา จนกระทั่งได้พันธุที่คุณภาพดี แล้วนำยอดมาเสียบกับต้นพันธุ์ท้องถิ่น ปรากฏว่าทำให้ลองกองชนิดนี้มีความเด่นกว่าพันธุ์อื่นๆ อาทิ มีขนาดต้นที่ไม่สูงมาก เหมาะสำหรับการดูแลรักษา หรือเก็บเกี่ยวผลผลิต มีความแข็งแรงทนทาน ให้ผลผลิตได้หลายสิบปี แถมยังสามารถอาศัยอยู่กับพืชชนิดอื่นได้ดีด้วย
ที่สำคัญก็คือ ลองกองพันธุ์หอม มีกลิ่นหอมสมชื่อ เมื่อปลิดผลออกมาจากต้นแล้ว สามารถแกะรับประทานได้ทันที โดยมีรสชาติหวานอร่อย ต่างกับลองกองพันธุ์อื่น ที่บางครั้งต้องนำมาบ่มทิ้งเอาไว้ 2-3 คืน ให้ลืมต้นก่อนจะนำไปจำหน่ายได้ นอกจากนั้นหากเกษตรกรไม่ประสงค์ที่จะเก็บผล ก็สามารถปล่อยให้สุกบนต้นได้เลยเป็นระยะเวลาเกือบ 2 เดือน โดยที่ผลจะไม่เน่าหรือร่วงลงมา
"การทำสวนผลไม้ให้ประสบความสำเร็จได้ ต้องยึดหลัก 3 ข้อ คือ 1.ต้องสายพันธุ์ดี 2.ต้องดินดี และ 3.ต้องดูแลรักษาดี ผมโชคดีที่ไร่ผมเป็นเนิน หรือเป็นควน ต้นไม้จึงไม่อุ้มน้ำ ขณะเดียวกันด้านล่างก็เป็นสายน้ำที่ไหลลงไปสู่น้ำตก ฉะนั้นในช่วงหน้าแล้งจึงมีน้ำเพียงพอในการรดต้นไม้ คือผมต่อท่อดูดขึ้นมาแล้วจ่ายผ่านระบบสปิงเกอร์จะให้น้ำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย" สมคิด กล่าว
ส่วนการให้ปุ๋ย สมคิดบอกว่า ส่วนใหญ่จะเน้นปุ๋ยธรรมชาติ ด้วยการนำเศษไม้ เศษหญ้า มาสุมไว้ใต้โคนต้นลองกอง ให้ย่อยสลายไปเอง แต่ปีหนึ่งๆ ก็อาจจะใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ให้ต้นไม้บ้างสัก 1 ครั้ง พร้อมทั้งตัดแต่งกิ่งที่ไม่จำเป็น หรือแต่งผลที่ไม่ค่อยสวยงามทิ้งไป ซึ่งจะไม่ใช้ยากำจัดวัชพืช หรือยาปราบศัตรูพืช เพื่อให้ผลไม้ที่ออกมาจำหน่ายปลอดสารพิษจริงๆ
"ในแต่ละปีสวนของผมจะมีผลผลิตลองกองประมาณปีละ 50-60 ตัน ในราคากิโลกรัมละ 40-50 บาท ลองคิดเป็นเงินก็กว่า 2 ล้านบาท ถือว่าได้ราคาดีกว่าสวนอื่นๆ ซึ่งขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 20-30 บาท ลูกค้าผมใน จ.ตรัง รวมถึงมาจากกระบี่ นครศรีธรรมราช ให้ความสนใจสั่งลองกองไปรับประทาน คนในพื้นที่รู้จักผมดี แห่มาซื้อถึงไร่เลยทีเดียว"
เนื่องจากสวนผลไม้มีอายุกว่า 20 ปีแล้ว สมคิด ทดลองนำยางพาราปลูกในไร่อ่างทอง เป็นพันธุ์อาร์อาร์ไอที 251 ปลูกลงไประหว่างต้นลองกอง ตอนนี้มีอายุกว่า 3 ปีแล้ว มีทั้งหมด 1,600 ต้น ปรากฏว่า ไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบอะไรต่อการให้ผลผลิตของลองกอง ขณะที่ยางพาราก็โตวันโตคืนเหมือนกับสวนอื่นๆ นับเป็นแนวคิดของการทำการเกษตรแบบผสมผสานที่น่าสนใจยิ่ง
ด้วยความสำเร็จนี้จึงทำให้ "ไร่อ่างทอง" ได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะรางวัลสวนเกษตรดีเด่น จากกรมส่งเสริมการเกษตร อีกทั้งยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในศูนย์บริการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการ เกษตรประจำอำเภอสิเกา ทำให้มีเกษตรกรจำนวนมากเดินทางมาชมไร่ เพื่อขอคำแนะนำเรื่องการเกษตรแบบผสมผสาน หากใครสนใจสามารถสอบถามได้ที่ 08-1326-7472
ที่มา : หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก วันที่ 23 กันยายน 2553
http://www.komchadluek.net/detail/20100923/74035/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%9A3%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8