เมื่อวันที่ 24 กันยายน 53
"ธนินท์" แนะรัฐลดพื้นที่ปลูกข้าว หันไปหนุนปลูกพืชพลังงานแทน เชื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรได้ ในจังหวะที่ราคาน้ำมันแพง แถมลดการสูญเสียเงินนำเข้าน้ำมัน เตือนรัฐไม่ต้องกลัวปัญหาเงินเฟ้อจากราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (มหาชน) หรือซีพี กล่าวในงานสัมมนาวิชาการ เรื่อง “ASIA RISING : THAI ENTREPRENEURS’ ROADMAP TO NEW INVESTMENT OPPORTUNITIES AND GROWTH IN THE NEW LANDSCAPE” จัดโดยกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และสถาบันนานาชาติเพื่อเอเชียแปซิฟิกศึกษา สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยกรุงเทพ และหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ว่าราคาน้ำมันดิบที่สูงขึ้น ทำให้ความต้องการพืชพลังงานเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มจากการเพาะปลูก ถือเป็นโอกาสดีของไทยอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
อย่างไรก็ตาม การปลูกพืชควรจะวางแผนให้เหมาะสม โดยควรลดพื้นที่ปลูกข้าวลงเหลือ 25 ล้านไร่ จากที่มีอยู่ 67 ล้านไร่ และใช้พื้นที่ที่เหลือ 42 ล้านไร่ ควรสนับสนุนให้ปลูกยางพารา อ้อย และมันสำปะหลังแทน แล้วสร้างระบบชลประทานที่ดี เพื่อให้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น วิธีการนี้จะทำให้เกษตรกรมีรายได้มหาศาล เนื่องจากเป็นพืชที่ไทยไม่มีคู่แข่ง อีกทั้งความต้องการของโลกก็มีมาก และเกษตรกรมีโอกาสชำระหนี้เงินกู้ได้ ธนาคารก็กล้าเข้ามาสนับสนุน ทำให้การลงทุนภาคการเกษตรทำได้ง่ายขึ้น
ผมว่าถ้าราคาข้าวไม่ถึงกิโลกรัมละ 50บาท ควรปลูกยางดีกว่า เพราะแนวโน้มความต้องการมีมาก ราคาก็จะแพงขึ้น และการสร้างพลังงานทดแทนได้เอง ทำให้ไทยลดการสูญเสียเงินจากการนำเข้าน้ำมันถึงปีละ 4-5 แสนล้านบาท" นายธนินท์กล่าว และว่า รัฐบาลควรลงทุนส่วนนี้ โดยใช้เงินสำรองที่มีอยู่ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่หากต้องใช้เงินกู้ก็ต้องทำใน 2 ประเด็นคือ 1.ระบบชลประทาน และ 2.ระบบโลจิสติกส์ เพื่อลดต้นทุนการผลิต ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าลง ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาค่าเงินอย่างหนึ่ง ดีกว่าการใช้เงินต่อสู้กับเงินนอกที่ไหลเข้ามา ในที่สุดอาจทำให้ไทยอยู่ในสภาวะตายแน่
นอกจากนี้ รัฐบาลต้องเอาใจใส่กับธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กหรือเอสเอ็มอี เนื่องจากเป็นพื้นฐานของธุรกิจที่จะเติบโตขึ้นในอนาคต หากวันนี้ไม่ได้รับการสนับสนุน อนาคตก็จะมองไม่เห็น ส่วนการพัฒนารัฐบาลต้องไม่กลัวปัญหาเงินเฟ้อ ราคาสินค้าที่สูงขึ้น ทำให้เกษตรกรมีรายได้สูงขึ้น แม้คนในเมืองเสียเปรียบ แต่คนในเมืองมีทางเลือกการบริโภคมากกว่า รัฐบาลไม่ควรแก้ปัญหาด้วยการกำหนดราคาขายของผู้ประกอบการ เพราะเป็นการปิดกั้นโอกาส ควรหันไปเพิ่มเงินเดือนให้สูงขึ้น
รัฐบาลอย่ากลัวปัญหาเงินเฟ้อ แต่จงกลัวปัญหาเงินฝืด หากสินค้าขายไม่ได้ ทุกอย่างก็เดินหน้าไม่ได้ จีนที่กลัวปัญหาเงินฝืดมาก มีการเพิ่มอัตราเงินเดือนมากถึง 100 % แต่เศรษฐกิจเขาไม่มีปัญหา เป็นเรื่องที่น่าคิดว่าเขาทำได้อย่างไร“ นายธนินท์กล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก วันที่ 24 กันยายน 2553
http://www.komchadluek.net/detail/20100924/74231/%E0%B8%98%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B8%8A%E0%B8%