เมื่อวันที่ 24 กันยายน 53
นายอรรถ อินทลักษณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า จากที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการผลิตผลไม้เมืองร้อน โดยเฉพาะมะม่วงและมังคุด ซึ่งเป็นที่รู้จักและนิยมแพร่หลายไปยังผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ อย่างปีที่ผ่านมา ผลผลิตมะม่วงส่งออก 26,098.27 ตัน แยกเป็นตลาดญี่ปุ่น 2,754.96 ตัน และตลาดประเทศอื่น 23,343.31 ตัน ส่วนมังคุด ส่งออกต่างประเทศ 111,300 ตัน
ทั้งนี้ ประเทศที่สนใจนำเข้ามะม่วง นอกจากญี่ปุ่นแล้ว ยังมีจีน มาเลเซีย เวียดนาม เกาหลี ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา เหตุนี้จึงต้องเผชิญกับคู่แข่งอย่างฟิลิปปินส์ และอินเดีย ซึ่งผลผลิตมะม่วงของทั้งสองประเทศเป็นที่รู้จักและยอมรับของผู้บริโภคแล้ว ขณะที่มะม่วงไทยยังเป็นที่รู้จักในวงจำกัด จึงจำเป็นต้องอาศัยการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ส่วนมังคุดราชินีผลไม้ ก็มีตลาดที่น่าสนใจ อาทิ จีน ฮ่องกง เวียดนาม และนับวันจะมีตลาดมากขึ้น
นายอรรถกล่าวว่า ปัจจุบันนี้ เกษตรกรในหลายจังหวัดได้รวมกลุ่มเป็นสมาพันธ์ผู้ผลิตมะม่วงแห่งประเทศไทย เพื่อจัดการผลผลิตให้สามารถส่งออกได้ตลอดปี ตั้งแต่ฤดูกาลผลิตปี 2552-2553 เป็นต้นมา โดยเฉพาะการส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น
ขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ ได้จัดให้มีสัญญาเพื่อการส่งออกมะม่วงระหว่างเกษตรกรกับผู้ส่งออกกว่า 20 ราย เพื่อให้มีผลผลิตเพียงพอสม่ำเสมอ ได้คุณภาพมาตรฐาน สร้างรายได้ที่มั่นคงแก่เกษตรกร ดำเนินมาตรการควบคุมการใช้สารเคมีเพื่อให้ได้มาตรฐานของญี่ปุ่น โดยความร่วมมือระหว่างเกษตรกร ผู้ผลิต ผู้ส่งออก กับกรมวิชาการเกษตร อีกทั้งควบคุมให้แหล่งผลิตเป็นสวนจีเอพี ที่มีการตรวจสารเคมีตกค้างของแต่ละสวน จนถึงการส่งออกทุกรุ่น เพื่อให้ผลผลิตเป็นไปตามมาตรฐานและปลอดภัยสำหรับผู้บริโภค
ที่มา : หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก วันที่ 24 กันยายน 2553
http://www.komchadluek.net/detail/20100924/74166/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%