เพาะเห็ดแครงในถุงพลาสติก
เมื่อวันที่ 22 มกราคม 53
เพาะเห็ดแครงในถุงพลาสติก
"
เห็ดแครง” จัดเป็นเห็ดที่บริโภคเป็นทั้งอาหารและยา เนื่องจากเป็นอาหารที่บำรุงร่างกายและยังมีสรรพคุณในการป้องกันโรคได้หลายชนิด เห็ดชนิดนี้สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลายชนิด เช่น นำมาเจียวกับไข่ แกงกะทิ ห่อหมกและงบเห็ดแครง เป็นต้น
มีรายงานว่าที่สาธารณรัฐประชาชนจีนมีคำแนะนำให้คนไข้ที่เป็นโรคระดูขาว รับประทานเห็ดแครงที่ปรุงกับไข่เพื่อรักษาโรคในประเทศญี่ปุ่นใช้เห็ดแครงเป็นยาเนื่องจากในเห็ดแครงมีสารที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านเซลล์มะเร็งและต่อต้านเชื้อไวรัส สำหรับประเทศไทยเห็ดแครงพบมากในภาคใต้ของประเทศ ในธรรมชาติต้นยางพาราที่ตัดโค่นไว้ เมื่อท่อนไม้ตายและมีฝนตกจะพบเห็ดแครงขึ้นเป็นจำนวนมากแต่ด้วยในปัจจุบันมีการใช้ยาฆ่าตอต้นยาง ชาวบ้านบอกว่าเห็ดแครงที่เก็บมารับประทานแล้วมีอาการคันปาก
อ.กาญจณี เตชะวรรักษ์ จากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกระบี่ ได้ทดลองการเพาะเห็ดแครงในถุงพลาสติกในเชิงพาณิชย์จนประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ สามารถส่งเสริมให้เกษตรกรได้นำไปประกอบอาชีพได้ โดยได้สรุปในเบื้องต้นว่าเห็ดแครง จำนวน 1 ถุง มีต้นทุนในการผลิตเฉลี่ยประมาณ 4.86 บาท เมื่อนำเห็ดแครงไปเปิดถุงจะได้ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 110-130 กรัม ปัจจุบันราคาเห็ดแครงสดที่มีขายในท้องตลาดราคากิโลกรัมละ 100-150 บาท ทำให้เกษตรกรที่ซื้อเห็ดแครงไปเปิดดอกจะได้กำไรจากการขายเห็ดแครงก้อนละ 5-10 บาท
แต่ในการเพาะเห็ดแครงในถุงพลาสติกมีข้อควรระวังดังนี้ ในการทำก้อนเห็ด ผู้ผลิตจะต้องเจาะก้อนเห็ดให้มีความลึกประมาณ 2 นิ้วเพื่อป้องกันไม่ให้เห็ดออกดอกที่จุก, ในระยะที่พักบ่มเชื้อจำเป็นจะต้องบ่มเส้นใยในที่มืด มิฉะนั้นแสงจะกระตุ้นให้เส้นใยสร้างดอกทั้ง ๆ ที่เส้นใยยังเจริญไม่เต็มถุงมีผลทำให้ผลผลิตต่ำไม่คุ้มค่าในแง่เศรษฐกิจ, ในระยะเปิดดอกเกษตรกรจะต้องมีการดูแลให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ไม่เช่นนั้นจะเกิดการปนเปื้อนจากราเขียวและราสีส้ม ราสีส้มมักจะเกิดเป็นกระจุกบริเวณปากถุงมีลักษณะเป็นผลหรือเป็นก้อนติดกันมี สีชมพูอมส้ม บางถุงอาจจะเกิดที่ก้นถุงทำให้เส้นใยเห็ดไม่สามารถเจริญได้ เพราะเชื้อราชนิดนี้เจริญปกคลุมเส้นใยอย่างรวดเร็ว
เทคนิคในการเปิดดอก อ.กาญจณีแนะให้ใช้วิธีกรีดข้างถุงให้เป็นมุมเฉียงจากบนลงล่างทั้ง 4 มุมของถุง เพราะถ้ากรีด 3 แถวดอกที่ออกจะแน่นทำให้ดอกเห็ดเจริญไม่เต็มที่ ในระยะแรกของการรดน้ำ ควรรดเฉพาะที่พื้นโรงเรือน รอให้เส้นใยเจริญประสานกันก่อน ถ้ารดน้ำไปถูกก้อนเชื้อจะทำให้เห็ดออกดอกช้าและถ้าน้ำไม่สะอาดจะทำให้เชื้อจุลินทรีย์เข้าทำลายรอยแผล
ในการให้น้ำก้อนเชื้อควรจะติดระบบสปริงเกลอร์ ให้น้ำเช้า-เย็น ถ้าอากาศแห้งควรเพิ่มจำนวนครั้งขึ้นอีก.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 22 มกราคม 2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=568&contentID=44094
ข่าวที่เกี่ยวข้อง นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง