เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 53
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรฯได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมสมัชชาองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ 30 ซึ่งจัดขึ้นที่เมือง Gyeongju สาธารณรัฐเกาหลี ระหว่างวันที่ 27 กันยายน-1 ตุลาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ข้อมูลจากการประชุมระบุว่า ในปี 2553 มีจำนวนประชากรโลกที่หิวโหย 925 ล้านคน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกประมาณ 578 ล้านคน ขณะที่ผลผลิตธัญพืชในภูมิภาค เช่น ข้าว และข้าวสาลี มีไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคจำเป็นต้องมีการนำเข้าประมาณ 85 ล้านตัน ในปี 2553/2554
สำหรับผลการเข้าร่วมประชุม มีประเด็นสำคัญ คือ การรับรองกรอบยุทธศาสตร์การดำเนินงานของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 10 ปี (2553-2562) โดยมีพันธกิจเพื่อช่วยเหลือประเทศสมาชิกให้ลดจำนวนผู้ขาดสารอาหารให้ได้ ครึ่งหนึ่งในปี 2015 โดยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรและบรรเทาความยากจน ขณะเดียวกันต้องปกป้องทรัพยากรธรรมชาติในภูมิภาค โดยมีกรอบยุทธศาสตร์ของภูมิภาค 5 ข้อ ได้แก่
1.การเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการ เพื่อขจัดความหิวโหยและทุพโภชนาการ มีเป้าหมายลดคนยากจนและหิวโหยให้ได้ครึ่งหนึ่ง ภายในปี 2558 คือ ให้เหลือประมาณ 420 ล้านคน
2.ส่งเสริมการผลิตทางการเกษตรและพัฒนาชนบท
3.สนับสนุนการจัดการและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนและเหมาะสม
4.เสริมสร้างสมรรถนะให้สามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามและความเร่งด่วนฉุกเฉินทางด้านอาหารและการเกษตร
5.เพิ่มความสามารถเผชิญผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่มีต่อความมั่นคงด้านอาหารและโภชนาการ โดยมีงบประมาณดำเนินงานตามแผนงานปี 2553 - 2554 ประมาณ 160 ล้านเหรียญสหรัฐ ในส่วนแผนการดำเนินงานปี 2555 - 2556 จะมีการนำเสนอต่อ ที่ประชุมสมัชชา FAO ในเดือนมิถุนายน 2554 เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในการจัดสรรงบประมาณให้ต่อไป
ส่วนประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากผลการประชุมครั้งนี้ มีหลายประเด็น อาทิ การให้ความเห็นชอบกรอบยุทธศาสตร์การดำเนินงานของภูมิภาค จะเป็นแนวทางให้ FAO ช่วยเหลือประเทศสมาชิกได้ตรงกับความต้องการของประเทศสมาชิกมากยิ่งขึ้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 8 ตุลาคม 2553
http://www.naewna.com/news.asp?ID=231226