เมื่อวันที่ 5 มกราคม 53
นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ เผยว่า กรมป่าไม้ได้ลงนามความร่วมมือกับสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมการประสานงานกับ องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ และการเกษตรต่างประเทศ (FAO/TCP) เพื่อดำเนินโครงการการมีส่วนร่วมของเกษตรกรปลูกป่าในการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน โดย FAO จะจัดหาที่ปรึกษาทางด้านวิชาการระดับนานาชาติด้านนโยบาย ด้านกฎหมาย ด้านการส่งเสริมและการช่วยเหลือทางวิชาการ รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่างๆ ตามโครงการจำนวน 326,000 ดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับโครงการดังกล่าว เป็นผลมาจากในช่วงเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา ป่าไม้ของประเทศไทยถูกบุกรุกทำลายอย่างหนัก รัฐบาลได้พยามอย่างยิ่งที่จะปกป้องพื้นที่ป่าไม่ที่เหลืออยู่และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเอกชนในการจัดการป่าไม้และการปลูกสร้างสวนป่า ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกป่าโดยใช้ไม้พื้นเมือง แต่การดำเนินงานไม่บรรลุวัตถุประสงค์เท่าที่ควร เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจำนวนมากยกเลิกการปลูกไม้ยืนต้นแล้วหันกลับไปปลูกพืชเกษตรอายุสั้นแทน ส่วนเกษตรกรที่ยังคงรักษาพื้นที่สวนป่าเอาไว้ ก็มีอุปสรรคเกี่ยวกับกฎระเบียบของทางราชการและมีรายได้ไม่เพียงพอ เนื่องจากพันธุ์ไม้พื้นเมืองโตช้า ให้ผลตอบแทนน้อยกว่าพันธุ์ไม้ชนิดอื่นและพืชเกษตรอายุสั้น
ส่วนความร่วมมือของ FAO ที่มีต่อประเทศไทย คือ การจัดสรรงบประมาณเพื่อขจัดปัญหาความยากจน, ขยายเครือข่ายความปลอดภัยของสังคม โดยเฉพาะภาคส่วนที่ยังไม่มีการจัดตั้งอย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเกษตรกรที่ยากจนและกลุ่มคนที่มีความเปราะบางมากที่สุด โดยอาศัยสหวิทยาการและการมีส่วนร่วมเพื่อส่งเสริมให้เกิดวิถีชีวิตที่ยังยืน การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการใช้เทคโนโลยีอย่างยั่งยืน สำหรับกรอบการเป็นหุ้นส่วนแห่งสหประชาชาติดังกล่าว ได้กำหนดพันธะที่จะดำเนินการเพื่อให้มีการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน และการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพต่อไป
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 5 มกราคม 2553
http://www.naewna.com/news.asp?ID=193919