เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 53
นายประเสริฐ โกศัลวิตร อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า ขณะนี้เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว หลายพื้นที่สภาพอากาศเริ่มมีอุณหภูมิลดลง กรมการข้าวมีความเป็นห่วงเกษตรกรที่ปลูกข้าวจะประสบกับปัญหา “ข้าวกระทบหนาว” ไม่ได้ผลผลิตเต็มที่ โดยพันธุ์ข้าวที่มีความอ่อนแอต่อสภาพอากาศหนาวเย็น ได้แก่ พันธุ์พิษณุโลก 2 ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับข้าวทุกระยะ ดังนั้นเกษตรกรควรหมั่นตรวจแปลงนาและสังเกตความผิดปกติของต้นข้าว เพื่อตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที
สำหรับอาการของต้นข้าวที่ได้รับผลกระทบ หากเกิดกับข้าวที่อยู่ในระยะกล้าจะทำให้ต้นข้าวชะงักการเจริญเติบโต แคระแกร็น ใบเหลือง และอาจหยุดการเจริญเติบโตจนถึงตายได้ในกรณีที่อุณหภูมิลดต่ำลงมาก ถ้าเกิดในระยะออกดอกหรือระยะผสมเกสร จะทำให้การผสมไม่ติดและเกิดเมล็ดลีบมาก
อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า เกษตรกรที่เตรียมจะปลูกข้าวในขณะนี้ควรติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากข้าวที่ปลูกอาจจะประสบปัญหาชะงักการเจริญเติบโต นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ข้าวพันธุ์พิษณุโลก 2 โดยสามารถใช้พันธุ์อื่นที่สามารถทนสภาพอากาศหนาวได้ดีกว่า เช่น กข31 (ปทุมธานี 80) ส่วนข้าวที่ชะงักการเจริญเติบโตในขณะที่อุณหภูมิยังไม่สูงขึ้นควรชะลอการใส่ ปุ๋ยจนกว่าอุณหภูมิจะสูงอยู่ในระดับปกติ เนื่องจากข้าวจะไม่ตอบสนองต่อปุ๋ยในภาวะอากาศหนาวเย็นเมื่ออุณหภูมิปรับสูง ขึ้นตั้งแต่ 20 องศาเซลเซียสขึ้นไป แล้วข้าวจึงจะมีการเจริญเติบโตและตอบสนองต่อปุ๋ยได้ดี
เกษตรกรที่มีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน่วยงานของกรมการ ข้าวใกล้บ้าน หรือศูนย์บริการชาวนา 50 แห่งทั่วประเทศ ในวันและเวลาราชการ.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 9 พฤศจิกายน 2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=339&contentID=102823