เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 53
จากการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานราชการหลายหน่วยงาน ภายใต้ “โครงการส่งเสริมการใช้ปุ๋ยที่ได้คุณภาพมาตรฐานในสถาบันเกษตรกร” ในปี 2553 ที่ผ่านมาเพื่อสนับสนุนให้สหกรณ์เป็นแหล่งจำหน่ายปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ ที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้สมาชิกสหกรณ์ได้รับปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพ ถือเป็นการปกป้องผลประโยชน์และคุ้มครองสิทธิของสมาชิกไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ และจะช่วยให้ได้ผลตอบแทนคุ้มค่ากับการลงทุน
ผลการดำเนินการโครงการข้างต้น พบว่า ปุ๋ยของสหกรณ์ในโครงการยังต้องมีการพัฒนาด้านคุณภาพอยู่มาก ดังนั้นในปี 2554 จึงจำเป็นต้องเร่งรัดให้สหกรณ์มีความรู้ความเข้าใจการจำหน่ายและผลิตปุ๋ยคุณภาพให้ถูกต้องตามกฎหมาย และจะขยายผลไปสู่ปัจจัยการผลิตอื่น ๆ ได้แก่ เมล็ดพันธุ์ สารเคมีป้องกันและกำจัดศัตรูพืช และยาสัตว์ด้วย เพื่อให้ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่การผลิต ซึ่งจะส่งผลให้สมาชิกของสหกรณ์ได้ใช้ปัจจัยการผลิตที่มีคุณภาพ และสามารถพัฒนากระบวนการผลิตสินค้าสหกรณ์ให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั่วไป
ที่ผ่านมามีการออกประกาศเรื่อง คำแนะนำการผลิตหรือจัดหาปุ๋ยไว้ขายของสหกรณ์ ซึ่งสาระสำคัญของประกาศได้แนะนำให้สหกรณ์ทราบถึงข้อควรปฏิบัติ 5 ประการ ได้แก่ การจัดหาปุ๋ยและขายปุ๋ยให้แก่ สมาชิก การตรวจสอบปุ๋ยของสหกรณ์การผลิตและการผสมปุ๋ย การบริหารจัดการเกี่ยวกับการผลิต การจัดหาและการขายปุ๋ยตลอดจนความ รับผิดชอบของสหกรณ์
นอกจากนั้นยังได้จัดอบรมหลักสูตรการใช้ปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพให้ผู้แทนสหกรณ์การเกษตรที่เข้าร่วมโครงการฯ เพื่อให้มีความรู้ในการใช้ปัจจัยการผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน เพื่อให้สมาชิกได้รับประโยชน์เต็มประสิทธิภาพและคุ้มค่ากับเงินที่ซื้อปุ๋ยไปใช้ด้วย
การตรวจสอบย้อนกลับจากผลตรวจวิเคราะห์คุณภาพตัวอย่างปุ๋ยครั้งแรก พบว่ามีบางบริษัทจำหน่ายปุ๋ยที่ไม่ได้มาตรฐานให้กับสหกรณ์การเกษตรในโครงการ หน่วยงานที่รับผิดชอบจึงเร่งหารือกับผู้ประกอบการ รวมทั้งคณะกรรมการสมาคมผู้ค้าปุ๋ยแห่งประเทศไทย เพื่อวางแนวทางแก้ไขและเร่งตัดวงจรปุ๋ยที่ไม่ได้มาตรฐานออกจากระบบ ซึ่งได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยมีการประชุมชี้แจงทำความเข้าใจไปเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2553 ที่ผ่านมา ในส่วนของกรมส่งเสริมสหกรณ์กำหนดแนวทางพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่สหกรณ์ และผู้จำหน่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจตนาในการจำหน่าย รวมถึงการกำหนดหลักเกณฑ์ให้เป็นไปตามประกาศนายทะเบียนสหกรณ์ที่จะใช้ในการซื้อปุ๋ยของสหกรณ์ และต้องเป็นไปตามความต้องการของสมาชิกเป็นสำคัญ
ปีที่ผ่านมามีสหกรณ์ 3,721 แห่ง ดำเนินธุรกิจจัดหาปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์จำหน่ายให้แก่สมาชิก คิดเป็นมูลค่ากว่า 18,793 ล้านบาท ซึ่งเห็นได้ว่ามีส่วนแบ่งตลาดเกือบถึง 50% ของมูลค่าการซื้อปุ๋ยในประเทศ และปี 2554 นี้ คาดว่ามูลค่าการ ซื้อขายปุ๋ยผ่านสถาบันเกษตรกรจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 20,000 ล้านบาท ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องเร่งควบคุมคุณภาพปุ๋ยเคมีของสหกรณ์ให้ได้มาตรฐานมากขึ้น เพื่อคุ้มครองเกษตรกรให้สามารถซื้อปัจจัยการผลิตจากสหกรณ์ โดยเฉพาะปุ๋ยที่มีคุณภาพ ซึ่งจะช่วยพัฒนาการผลิตสินค้าพืชผักและผลไม้ของสมาชิกสหกรณ์มีคุณภาพเพิ่มขึ้นได้
ทั้งหมดคือปฏิบัติการภายใต้ความเข้มแข็งที่ต้องการขจัดเหลือบที่คอยเอา เปรียบเกษตรกรและกลุ่มสหกรณ์ และหยุดขบวนการที่สร้างความเสียหายให้ขบวนการสหกรณ์ให้หมดไปโดยเร็ว เพื่อให้เกษตรกรและกลุ่มสหกรณ์ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ และมีรายได้ สมกับความเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งปี โดยไม่มีใครหลอกขายปุ๋ยไม่ได้คุณภาพอีก.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 17 พฤศจิกายน 2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=345&contentID=104426