เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 53
“ให้ปรับปรุงโรงสีข้าวพิกุลทองให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และให้พิจารณาถึงจำนวนประชากรที่มาใช้ประโยชน์ อย่างน้อยควรมีขนาดเท่ากับโรงสีที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช และควรประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้ามาใช้ประโยชน์ ส่วนเครื่องเก่าให้อนุรักษ์ไว้ และปรับปรุงอาคารให้สวยเป็นพิพิธภัณฑ์ โดยให้สำนักงาน กปร. เร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว”.....“ ให้ยุวเกษตรกรและกรรมการโรงสี ได้ศึกษาเรื่องการบริหารจัดการโรงสีข้าวตั้งแต่ต้น รวมทั้งการศึกษาด้านบัญชี และหลักสูตรอื่น ๆ ให้ครบวงจร”.... พระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อ วันที่ 24 กันยายน 2551
จากแนวพระราชดำริดังกล่าว สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนราธิวาส ร่วมกับจังหวัดนราธิวาส ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลุ่มน้ำโก-ลก องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสะท้อน ตลอดจนราษฎรในพื้นที่ได้ประชุมหารือร่วมกัน และได้กำหนดแนวทางในการพัฒนา โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงาน กปร. ทำการจัดสร้างโรงสีพร้อมจัดหา เครื่องสีข้าวและอุปกรณ์ใหม่มาทดแทน พร้อมเพิ่มองค์ความรู้และการบริหารจัดการโรงสีข้าวแก่ผู้นำสหกรณ์ ผู้นำชุมชน และเยาวชนในพื้นที่ และดำเนินการปรับปรุง โรงสีพิกุลทองเดิมให้เป็น “พิพิธภัณฑ์” สำหรับการศึกษาเรียนรู้ของประชาชนในพื้นที่ต่อไป
ทั้งนี้โรงสีข้าวพิกุลทองเดิมได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องจากทรงห่วงใยและมีพระราชประสงค์ช่วยเหลือราษฎรที่ยากจน จึงมีพระราชดำริให้ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ก่อตั้งโรงสีข้าวขนาดเล็กกำลังการผลิต 500 กิโลกรัมต่อชั่วโมง ซึ่งทางภาคเอกชน ได้น้อมเกล้าฯ ถวาย ณ บริเวณโครงการชลประทานมูโนะ หมู่ที่ 1 บ้านปูยู ตำบลเกาะสะท้อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2528 และ ม.จ.จักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธุ์ ได้ประทานชื่อโรงสีแห่งนี้ว่า “โรงสีข้าวพิกุลทอง”
นายเสน่ห์ สภาพันธ์ สหกรณ์ จังหวัดนราธิวาส เปิดเผยว่า โรง สีข้าวพิกุลทองเป็นสถานที่รับฝากข้าวเปลือก โดยทำหน้าที่เสมือนธนาคารข้าว บริการสีข้าวให้กับราษฎรในพื้นที่ ตลอดจนรวบรวมผลผลิตข้าวมาสีแล้วขายให้กับ พ่อค้า โดยเกษตรกรที่มาใช้บริการจะได้รับคืนกำไรเฉลี่ยปลายปี ขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่ใน การศึกษา ค้นคว้าเกี่ยวกับการเพาะปลูกข้าว การเก็บเกี่ยว การสีข้าว ตลอดจนการขาย ซึ่งต่อมาเกษตรกรผู้ใช้บริการโรงสีข้าวในท้องที่ตำบลเกาะสะท้อน และตำบลพร่อน อำเภอตากใบ ได้รวมกลุ่มจัดตั้งเป็นสหกรณ์การเกษตรโรงสีข้าวพิกุลทองตากใบ จำกัด ขึ้น เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2544 เพื่อการบริหารจัดการและส่งเสริมพัฒนาอาชีพร่วมกัน
โดยแบ่งออกเป็น 3 กิจกรรม ประกอบด้วย การรับจ้างสีข้าว การรับฝากข้าว และการบริหารงานภายในโรงสีข้าวพิกุลทอง ในช่วงสถานการณ์ปกติและโรงสีข้าวยังสามารถใช้งานได้เต็มกำลังการผลิต มีเกษตรกรนำข้าวมาใช้บริการสีข้าวจำนวนมาก แต่เนื่องจาก โรงสีข้าวได้ผ่านการใช้งานมานานจึงเกิดการชำรุด
“หลังจากได้รับพระราชทานโรงสีข้าวแห่งใหม่ ชาวบ้านได้ประโยชน์ตรงนี้เยอะมาก โดยมีสหกรณ์โรงสีข้าว พิกุลทองตากใบ จำกัด เป็นผู้บริหาร จัดการในเรื่องของการบำรุงดูแลรักษา การให้บริการกับสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกรโดยทั่วไป ทั้งในเรื่องของการบริหารจัดการซึ่งทำตามวิธีการ ของสหกรณ์ โดยชาวบ้านมาลงหุ้นกัน และมาช่วยกัน บริหารจัดการ มีคณะกรรมการดำเนินการของสหกรณ์เข้ามาดูแล กรมส่งเสริมสหกรณ์ก็มาในฐานะของ พี่เลี้ยงมาแนะนำ เพื่อที่จะให้การบริหารการจัดการของสหกรณ์เป็นไปได้ด้วยดี” นายเสน่ห์ สภาพันธ์ สหกรณ์จังหวัดนราธิวาส กล่าว
ส่วนพิพิธภัณฑ์โรงสีข้าวพิกุลทอง จะมีการจัดนิทรรศการด้านการพัฒนาตามโครงการพระราชดำริ อย่างครบวงจรประกอบด้วยนิทรรศการเกี่ยวกับโครงการ ชลประทานมูโนะอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นิทรรศการเกี่ยวกับโครงการแกล้งดินของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองฯ นิทรรศการเกี่ยวกับการพัฒนาอาชีพด้านการเกษตร เช่น พันธุ์ข้าว โรงสีพิกุลทอง โรงสีข้าวซ้อมมือขนาดเล็ก การแปรรูปทางการเกษตร การทำบัญชีครัวเรือน ฯลฯ นิทรรศการแสดงเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำนาตามวิถีชีวิตท้องถิ่นของชาว อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส โดยการจัดทำพิพิธภัณฑ์ได้ดำเนินงานไปแล้วบางส่วน และจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2554.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 19 พฤศจิกายน 2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=344&contentID=104860