เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 53
ทุกคนเตรียมเสื้อกันหนาวคนละ 1 ตัว เพราะต่างคนต่างคะเนกันว่า การเดินเพื่อไปชมโครงการเลี้ยงไก่ไข่ใน "สหกรณ์การเกษตรหมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพง จำกัด" อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาต้องประสบกับลมหนาวอย่างแน่นอน เนื่องเพราะหลายต่อหลายสำนักมีการคาดคะเนกันว่าปีนี้เมืองเหนืออากาศถึงขั้นหนาวเหน็บ และจะหนาวที่สุดในรอบหลายสิบปีถึงขนาดจะมีหิมะลง ช่างสอดคล้องกับช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่มีปรากฏการณ์แม่คะนิ้งเกาะตามใบหญ้าและใบไม้ตามดอยต่างๆ แต่ปรากฏว่าพอไปถึงเชียงใหม่ทุกคนต่างผิดหวัง เพราะเสื้อกันหนาวที่ใส่มาจากรุงเทพฯ กลายเป็นภาระเมื่อเจอกับสภาพอากาศร้อนอบอ้าวไม่แตกต่างไปจากกรุงเทพฯมากนัก
“สหกรณ์การเกษตรหมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพง จำกัด“ มาจากสมาชิกของโครงการหมู่บ้านสหกรณ์อำเภอสันกำแพง (ปัจจุบันอยู่ใน อ.แม่ออน) ซึ่งเป็นโครงการตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เริ่มต้นโครงการเมื่อปลายปี 2518 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่มีฐานะยากจนไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง โดยให้ถือครองที่ดินเพื่ออยู่อาศัยและทำการเกษตรในรูปแบบหมู่บ้านสหกรณ์การเกษตร ต่อมาสมาชิกโครงการหมู่บ้านสหกรณ์อำเภอสันกำแพง ได้รวมตัวจดทะเบียนเป็น "สหกรณ์การเกษตรหมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพง จำกัด" เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2524 มีพื้นที่ส่วนกลางให้เกษตรกรทำมาหากินจำนวน 9,264 ไร่ ใน 8 หมู่บ้าน ของ อ.แม่ออน
เป้าหมายในการดำเนินการนั้น ก็ส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินการของสหกรณ์ให้เข้มแข็ง โดยการจัดการเชิงธุรกิจให้มีประสิทธิภาพ เกิดผลกำไร และทำผลกำไรขยายไปสู่สมาชิก พัฒนาศักยภาพเกษตรกรในโครงการ ให้บริหารจัดการระบบสหกรณ์ได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ส่งเสริมสนับสนุนสมาชิกสหกรณ์ในการประกอบอาชีพ และร่วมมือแก้ไขปัญหาตามแนวคิดของ “สหกรณ์”
โครงการเลี้ยงไก่ไข่ในสหกรณ์การเกษตรหมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพง จำกัด นั้น สุปรี เบ้าสิงห์สวย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ มูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท สนับสนุนโดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ บอกว่า เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ร่วมกับมูลนิธิพัฒนาชีวิตชนบท ดำเนินโครงการสนับสนุนการเลี้ยงไก่ไข่ในหมู่บ้านสหกรณ์มาตั้งแต่ปี 2520 เริ่มจากสร้างโรงเรือนระบบเปิดเลี้ยงไก่ไข่บนดินมี 6 โรงเรือน มีแม่ไก่พันธุ์ไข่ 1.8 หมื่นตัว กระทั่งสร้างรายได้แก่สหกรณ์ได้อย่างมั่นคง และมีการพัฒนาโรงเรือนเป็นระบบปิดหรืออีแวป
ล่าสุดหมู่บ้านสหกรณ์การเกษตรหมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพง สามารถต่อยอดด้วยการขยายผลสร้าง “ตลาดชุมชนสหกรณ์สันกำแพง" เมื่อปี 2552 เป็นตลาดนัดตอนเย็น บริหารงานโดยคณะกรรมการของสหกรณ์ เพื่อให้เป็นแหล่งซื้อขายแลกเปลี่ยนผลผลิตและสินค้าของสมาชิกในชุมชน ซึ่งผลประกอบการตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก
"ตลาดชุมชนสหกรณ์ของเรา มีการจำหน่ายสินค้าที่ผลิตได้ภายในชุมชนทั้งพืชผักปลอดสารพิษ รวมไข่ไก่ในโครงการด้วย ปรากฏว่ามีจำนวนผู้ขายและผู้ซื้อมากขึ้นตามลำดับ ตอนนี้มีการสร้างห้องแถวเพื่อการค้าจำนวน 13 ห้อง เกิดเป็นรายได้แก่สหกรณ์เดือนละ 2 หมื่นบาท แผงขายสินค้า 30 แผง เก็บค่าเช่าวันละ 7 บาท มีพ่อค้าแม่ค้าเร่อีก 10-20 รายต่อวัน ซึ่งสหกรณ์จะคิดค่าเช่าเพียงวันละ 10 บาท หากเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีจำนวนผู้ค้าเพิ่มขึ้นอีกราว 70-80 ราย คิดเป็นธุรกรรมที่เกิดขึ้นจากตลาดชุมชนเล็กๆ แห่งนี้มูลค่ารวมปีละกว่า 12 ล้านบาท" สุปรี กล่าว
ด้าน สมจิตร เตชะหมื่น แม่ค้าขายผักในตลาดชุมชนสหกรณ์สันกำแพง วัย 59 ปี จาก ต.แม่ออน บอกว่า เป็นสมาชิกสหกรณ์มาตั้งแต่แรก เดิมทีมีอาชีพด้านการเกษตรเลี้ยงไก่บ้าน บางครั้งก็รับจ้าง ต่อมาราว 4-5 ปีก่อนหันมาปลูกผักขาย พอมีตลาดของสหกรณ์ขึ้นมาจึงมาขายเอง เป็นผักปลอดสารพิษมีทั้งแตงกว่า ผักาด ตะไคร้ ถั่วฝักยาว เป็นต้น ในแต่ละวันจะขาย 2-3 ชั่วโมง ได้ประมาณวันละ 400-500 บาท แต่ไม่ทราบว่าต้นทุนเท่าไร เพราะปลูกเอง
ส่วน คำแปง ใจคำมูล แม่ค้าขายผักวัย 60 ปี จาก ต.สหกรณ์ อ.สันกำแพง อีกรายหนึ่ง บอกว่า เดิมทีขายซาลาเปา เห็นแม่ค้าด้วยกันมาเช่าตลาดชุมชนสหกรณ์สันกำแพง ค่าเช่าถูกมาก จึงหันมาขายผักบ้าง เพราะเป็นสมาชิกของสหกรณ์เหมือนกันเมื่อ 3 เดือนก่อน โดยพืชผักที่ขายทั้งหมดรับมาจากผู้ปลูกผักปลอดสารพิษกลุ่ม "แม่อุ้ย" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในโครงการของหมู่บ้านสหกรณ์การเกษตรสันกำแพง มาขายต่อในแต่ละวันจะลงทุนกว่า 1,000 บาท มีผักพื้นเมืองหลายอย่างจะขายวันละ 2-4 ชั่วโมง ขายหมดทุกวัน จะมีกำไรวันละ 200-300 บาท
ขณะที่ เกษม วิไลประสงค์ ผู้แทนจากซีพีเอฟ กล่าวว่า ตลาดชุมชนนี้เกิดจากผลการดำเนินงานด้านส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงไก่ไข่ที่สหกรณ์สันกำแพงสามารถบริหารจัดการได้ดี โดยซีพีเอฟ เป็นพี่เลี้ยง ช่วยถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย พร้อมทั้งติดตามผลการเลี้ยงไก่ไข่ในสหกรณ์ให้ได้มาตรฐาน เน้นให้เกิดกระบวนการจัดการที่เป็นระบบ ตลอดจนให้คำปรึกษาด้านการตลาด ปัจจุบัน สหกรณ์สันกำแพงสร้างกำไรจากการเลี้ยงไก่ไข่ได้ปีละ 3-4 ล้านบาท มีโรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ 7 โรงเรือน 4.5 หมื่นตัว ได้ผลผลิตไข่ไก่วันละ ประมาณ 4.5 ฟอง ขายไข่คละหน้าฟาร์มราคาฟองละ 2.50 บาท โดยซีพีเอฟจะเป็นผู้รับซื้อทั้งหมด มีเพียง 5,000 ฟองเท่านั้นที่ะสหกรณ์จะนำไข่ไก่ขายเองให้สมาชิกและชุมชนในราคาต่ำกว่าท้องตลาด
"สหกรณ์การเกษตรหมู่บ้านสหกรณ์สันกำแพง จำกัด“ อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ถือเป็นต้นแบบของสหกรณ์ที่ประสบผลสำเร็จในการบริหารในรูปแบบของสหกรณ์ไปด้วยดี วันนี้สามารถขยายผลและต่อยอดเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างจะครบวงจร ทำให้สมาชิกคุณภาพชีวิตของชุมชนดีขึ้นเรื่อยๆ
ที่มา : หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก วันที่ 29 พฤศจิกายน 2553
http://www.komchadluek.net/detail/20101128/81050/ดูเลี้ยงไก่ไข่ชมตลาดชุมชนอาชีพยั่งยืนสหกรณ์สันกำแพง.html