เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 53
นายเฉลิมพร พิรุณสาร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารและกำกับดูแลโครงการจัดระบบการปลูกข้าว ครั้งที่ 2/2553 ว่า กรมชลประทานได้รายงานผลการสำรวจข้อมูลความต้องการเข้าร่วมโครงการของเกษตรกร ใน ปี 2554 มีเกษตรกรสมัครใจแสดงความจำนงเข้าร่วมโครงการ จำนวน 42,939 ราย พื้นที่ รวม 1,215,011 ไร่ โดยเกษตรกร จำนวน 24,234 ราย มีความต้องการปลูกพืชหลังนา/พืชปุ๋ยสด รวม 444,981 ไร่ อย่างไรก็ดี เพื่อให้การดำเนินโครงการจัดระบบการปลูกข้าวสามารถดำเนินการได้อย่างตรงพื้นที่เป้าหมายและถึงตัวเกษตรกรได้อย่างแท้จริง
การปฏิบัติงานจากนี้ไป ได้มอบหมายให้กรมชลประทานไประบุพื้นที่เป้าหมายทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ และตำบลให้ชัดเจน เพื่อเป็นข้อมูลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมพัฒนาที่ดิน เข้าไปดำเนินการจัดทำแผนงานและกิจกรรมต่างๆ เช่น การประชุมชี้แจงโครงการ จัดเวทีชุมชน จัดอบรมเกษตรกร การสนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืชหลังนา พืชปุ๋ยสด และปัจจัยการผลิต ซึ่งคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ ทั้ง 5 คณะ ซึ่งรับผิดชอบในแต่ละแผนงานและกิจกรรม จะได้นำเสนอต่อคณะกรรมการบริหารฯ เพื่อพิจารณาอีกครั้ง
"หลังจากที่ได้ข้อสรุปของพื้นที่เป้าหมายที่ชัดเจนและหน่วยงานต่างๆ ได้กำหนดแผนงานและกิจกรรมต่างๆ แล้ว จะให้เกษตรกรปลูกข้าวนาปรังก่อน หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวนาปรังแล้วจะส่งเสริมการปลูกพืชหลังนาและพืชปุ๋ยสด เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถ่วลิสง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวโพดหวาน และข้าวโพดฝักอ่อน เพื่อเป็นการเพิ่มปุ๋ยให้กับดินในพื้นที่นาข้าวของเกษตรกร โดยกรมชลประทานจะจัดระบบการส่งน้ำที่ชัดเจน กำหนดวันส่งน้ำให้กับพื้นเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งหน่วยงานต่างๆ จะร่วมกันบูรณาการการทำงาน จะไม่มีการทำงานในลักษณะต่างคนต่างทำอีกต่อไป โดยผลประโยชน์จะตกอยู่ที่ต่อตัวเกษตรกรโดยตรง การทำนาเป็นระบบ ช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตข้าว รวมถึงลดปัญหาโรคระบาดและศัตรูพืชในแปลงนาข้าวของเกษตรกรได้อย่างมาก " นายเฉลิมพร กล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 2 ธันวาคม 2553
http://www.naewna.com/news.asp?ID=238881