เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 53
นายอรรถ อินทลักษณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยถึงการดำเนินงานตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรในพื้นเศรษฐกิจหลัก 3 ชนิดได้แก่ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลัง ว่า ที่ผ่านมาพบว่ามีจุดอ่อนและข้อบกพร่องเกิดขึ้น โดยอาจเกิดจากเจตนาและไม่เจตนาของเกษตรกร ทำให้การขึ้นทะเบียนผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจและข้อมูลพื้นที่การเกษตรมีความคลาด เคลื่อนจากความเป็นจริง เช่นการที่เกษตรกรแจ้งพื้นที่ปลูกเกินจริง หรือการที่เกษตรกรแจ้งขึ้นทะเบียนซ้ำซ้อน ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถบันทึกลงในระบบสารสนเทศได้ถูกต้อง
ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินงานและจ่ายเงินถึงมือเกษตรกรเป็นไปอย่างทั่วถึงและ ถูกต้อง กรมส่งเสริมการเกษตร จึงได้สั่งการและมอบนโยบายให้เกษตรจังหวัดได้เข้าใจและตรวจสอบความถูกต้อง ของข้อมูลทะเบียนผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ ตามโครงการประกันรายได้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกันและได้กำชับให้เกษตรจังหวัดทั่วประเทศและเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรที่รับผิดชอบให้ความสำคัญในการตรวจสอบข้อมูลเกษตรกร ที่เข้าร่วมโครงการก่อนออกใบรับรองให้เกษตรกร
"แนวทางในการตรวจสอบความถูกต้อง ให้ใช้รายงานที่มีอยู่ในระบบการขึ้นทะเบียนและข้อมูลอื่นๆประกอบเปรียบเทียบ กับรายงานต่างๆ ที่มีอยู่ โดยเปรียบเทียบพื้นที่การขึ้นทะเบียนรายอำเภอ ตำบล กับรายงานพื้นที่ปลูกพืชแต่ละชนิด และพื้นที่รวมการปลูกพืชไร่รวมของอำเภอ ตำบล ดังนี้ กรณีแจ้งพื้นที่เกินให้เปรียบเทียบพื้นที่เฉลี่ยและพื้นที่ถือครองต่อรายของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน กรณีครอบครัวขยายให้สุ่มตรวจการแจ้งขึ้นทะเบียนซ้ำซ้อน กรณีที่เกษตรกรเช่าแบบไม่มีสัญญาให้สุ่มตรวจพื้นที่และตรวจสอบเอกสารการใช้ ภบท 5 (ใบภาษีบำรุงท้องที่)กับการบันทึกโปรแกรมว่าถูกต้องหรือไม่ ทั้งนี้หากเกิดปัญหาทุกกรณีให้สุ่มตรวจเอกสารและพื้นที่จริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายที่มีข้อมูลที่ผิดปกติ" นายอรรถ กล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 3 ธันวาคม 2553
http://www.naewna.com/news.asp?ID=239074