เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 53
นายทฤษดี ชาวสวนเจริญ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวถึงกรณีเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออก เกษตรกรจังหวัดนครปฐม และราชบุรี กำลังประสบปัญหาโรคลูกหมูตายก่อนกำหนด หรือ PRRS ระบาดหนักในพื้นที่ขณะนี้ว่า ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งปกติโรคนี้จะเกิดในช่วงที่เปลี่ยนสภาพอากาศจากฤดูฝนเข้าฤดูหนาว ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของสัตว์ทุกชนิด ทำให้เป็นโรคระบบทางเดินหายใจ ปอดบวมหรือไข้หวัด
สำหรับโรคลูกหมูตายก่อนกำหนดนั้น เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจและระบบสืบพันธุ์ เกิดจากเชื้อไวรัส มีระยะฟักตัวไม่เกิน 1 สัปดาห์ จะแสดงอาการทั้งในลูกหมูและหมูใหญ่ แต่ที่เกษตรกรวิตกกังวลเพราะโรคนี้ทำให้เกิดความสูญเสียมากในลูกหมู เนื่องจากถ้าเป็นแล้วโอกาสตายมากถึง 80-90% เริ่มตั้งแต่มีอาการไอแห้ง ซึม ไข้สูง มีรอยจ้ำเลือดสีม่วงบริเวณใบหู ทำให้ตายเฉียบพลัน ไม่สามารถรักษาได้ ส่วนอาการของโรคในหมูใหญ่นั้น จะเป็นหวัด มีไข้ แม้ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต แต่จะมีความสูญเสียคือ ถ้าเป็นแม่พันธุ์จะทำให้แท้งลูก หากเป็นพ่อพันธุ์ เชื้อจะแพร่โดยผ่านน้ำเชื้อได้ อย่างไรก็ตาม แม้โรคนี้จะไม่มีวิธีรักษา แต่ผู้เลี้ยงสามารถป้องกันได้ โดยการป้องกันโรคลูกหมูตายก่อนกำหนดที่ดีที่สุดคือ อย่าซื้อลูกหมูขุนจากหลายแหล่งมาเลี้ยง ควรซื้อลูกหมูจากแหล่งเดียวที่เชื่อถือได้ว่าปลอดโรคนี้ ในส่วนพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ถ้าเจาะเลือดตรวจแล้วพบมีเชื้อ PRRS ให้คัดแยกออกไป นอกจากนี้ ควรจัดระบบสุขาภิบาลฟาร์มที่ดี ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรค ถ้าคอกเปิดกว้างมีลมโกรก ให้สร้างที่กั้นบังลมไว้ อย่าให้สัตว์หนาวเย็น
ส่วนเกษตรกรที่กำลังประสบปัญหาโรคลูกหมูตายก่อนกำหนดขณะนี้ นายทฤษฎี กล่าวว่า เบื้องต้นให้เกษตรกรใช้ยาฆ่าเชื้อทำความสะอาด จัดการระบบสุขาภิบาลฟาร์มให้ดี ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ป้องกันโรคดังกล่าวได้ สำหรับพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ถ้าสงสัยว่าติดเชื้อโรคดังกล่าวหรือไม่ ให้ติดต่อปศุสัตว์จังหวัด โดยศูนย์วิจัยและชันสูตรโรคสัตว์เข้าไปตรวจพิสูจน์ให้ เพื่อวางระบบป้องกันโรคซึ่งจะเป็นการป้องกันการระบาดของโรคนี้
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2553
http://www.naewna.com/news.asp?ID=198593