เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 53
นายอรรถ อินทลักษณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เผยว่า จากปัญหาปริมาณผลผลิตผลไม้ทั้งภาคตะวันออก ภาคใต้ และภาคเหนือ ที่ใกล้จะออกสู่ท้องตลาดในช่วงตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป มักให้ผลผลิตกระจุกตัวช่วงกลางฤดู ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้มีผลผลิตออกมาล้นตลาดและราคาตกต่ำได้ กรมส่งเสริมการเกษตรในฐานะเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ได้เตรียมแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลไม้ ปี 2553 เพื่อลดผลกระทบดังกล่าว ดังนี้
1.กรมจะยึดหลักการให้จังหวัดเป็นแกนหลักในการจัดทำแผน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาของจังหวัด โดยมีส่วนกลางให้การสนับสนุน และให้คณะกรรมการเพื่อแก้ไขปัญหาเกษตรกรอันเนื่องมาจากผลผลิตการเกษตรระดับจังหวัด เป็นกลไกหลักในการบริหารจัดการและกำกับดูแลการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลไม้ในพื้นที่ เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา
2.ไม่แทรกแซงราคา แต่สนับสนุนให้กลไกตลาดปกติดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.เน้นการปรับปรุงคุณภาพเพื่อเพิ่มปริมาณผลไม้คุณภาพดีให้มากขึ้น
4.เน้นการกระจายผลไม้สดคุณภาพดีจากแหล่งผลิตถึงผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว และ
5.กำหนดปฏิทินปฏิบัติงานเพื่อให้ทุกฝ่ายดำเนินงานตามกำหนดเวลา
สำหรับมาตรการดำเนินงาน เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาผลไม้ ปี 2553 มี 6 ด้าน ประกอบด้วย
1.มาตรการพัฒนาคุณภาพ โดยส่งเสริมเกษตรกรในด้านการตัดแต่งช่อดอก/ผล การจัดการปุ๋ย น้ำ และป้องกันกำจัดศัตรูพืชในระยะดอก/ผล การห่อผลการเก็บเกี่ยวและการปฏิบัติหลังเก็บเกี่ยวอย่างถูกวิธี รวมทั้งถ่ายทอดเทคโนโลยีและสนับสนุนการจัดการผลผลิตหลังการเก็บเกี่ยวของ สถาบันเกษตรกร
2.มาตรการกระจายผลผลิตภายในประเทศ สนับสนุนให้การจัดทำแผนกระจายผลผลิตและหาตลาดล่วงหน้าของสถาบันเกษตรกร รวมทั้งการขนส่งผ่านบริการของบริษัทไปรษณีย์ไทยจำกัด
3.มาตรการผลักดันการส่งออก โดยชดเชยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ร้อยละ 5 ให้แก่ผู้ส่งออก 4.มาตรการส่งเสริมการแปรรูป ชดเชยส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 5 แก่โรงงานแปรรูป และสถาบันเกษตรกร
5.มาตรการส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ และ
6.มาตรการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ผลไม้ในต่างประเทศ
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2553
http://www.naewna.com/news.asp?ID=199503