หน้าแรก > ข่าวเกษตรประจำวัน
ลดการใช้พื้นที่ป่า ด้วยนาขั้นบันได
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 53
ลดการใช้พื้นที่ป่า ด้วยนาขั้นบันได
นาแบบขั้นบันได คือการสกัดไหล่เขาให้เป็นชั้นๆลดหลั่นลงมาเป็นขั้นบันได เพื่อช่วยเพิ่มเนื้อที่ในการเพาะปลูก เป็นการรักษาหน้าดินไม่ให้ถูกชะล้างไป อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องน้ำทั้งในแง่การชลประทานโดยการเก็บกักน้ำฝน นาขั้นบันไดเป็นตัวอย่างหนึ่งของภูมิปัญญาแบบท้องถิ่น ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสมบัติของโลกและมวลมนุษยชาติ ในปัจจุบันนี้ ยังผลให้การบุกรุกเพื่อแผ้วถางป่าเพื่อใช้เป็นพื้นที่เพาะปลูกที่จะต้องขยายออกไปในทุกปีนั้นยุติลงโดยสิ้นเชิง
ในหลายประเทศแถบเอเชีย นับตั้งแต่อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และแม้กระทั่งประเทศสาธารณรัฐประชาชน จีนก็มีการใช้พื้นที่ไหล่เขาทำเป็นนาขั้นบันไดเพื่อการปลูกข้าว ทำให้การบุกรุกถางป่าเพื่อใช้เป็นที่ปลูกพืชลดน้อยลง ส่วนประเทศไทยในวันนี้ก็มีเกิดขึ้นแล้วจากการเปิดเผยของ นายเฉลิมเกียรติ แสนวิเศษ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ว่านายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี และนายสหัส บุญญาวิวัฒน์ ที่ปรึกษาสำนักพระราชวังได้เดินทางไปติดตามความก้าวหน้าในโครงการพัฒนาเกษตร ที่สูงบ้าน กอก-จูน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอปัว จังหวัดน่าน โดยมีนายวีรวิทย์ วิวัฒนวานิช ผู้ว่าราชการ จังหวัดน่าน พลตรีชีวัน โลหะบุตร ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกน่าน พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่โครงการให้การต้อนรับ ซึ่งในโครงการนี้มีส่วนเสริมและสนับสนุนให้ราษฎรในพื้นที่ปลูกข้าวด้วยระบบนาขั้นบันได
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2543 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมราษฎรบ้านจูนใต้ ซึ่งเป็นหมู่บ้านบริวารของบ้านกอก หมู่ที่ 11 ตำบลภูคา อำเภอปัว จังหวัดน่าน ทรงทอดพระเนตรสภาพความเป็นอยู่ของราษฎรที่มีความด้อยโอกาสทั้งทางเศรษฐกิจ และสังคม จึงได้พระราชทานพระราชดำริแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาส่งเสริมราษฎรทำการเกษตรให้เหมาะสมกับพื้นที่ เช่น การทำนาแบบขั้นบันไดเพื่อเป็นการลดการใช้พื้นที่ในการทำการเกษตรให้น้อยลง โดยศูนย์วิจัยข้าวแพร่ ซึ่งรับผิดชอบโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดน่าน ได้พัฒนาระบบการปลูกข้าวแบบเดิม คือ ข้าวไร่ ซึ่งจะต้องแผ้วถางป่าทุกปี มาเป็นแบบนาขั้นบันได ไม่ต้องขยายพื้นที่ เพื่อเพาะปลูกใหม่ในทุกปี โดยปลูกข้าวประเภทข้าวไร่ 500 ไร่ และ ระบบนาดำในนาขั้นบันได 92 ไร่ มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 62 ราย ได้ผลผลิตข้าวประมาณ 300 กิโลกรัมต่อไร่ในการปลูกแบบข้าวไร่ และ 430-699 กิโลกรัมต่อไร่ ในสภาพการปลูกแบบนาดำ ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จ ที่สามารถขยายผลสู่การทำนาขั้นบันไดในพื้นที่อื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี
และล่าสุดด้วยความห่วงใยในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จึงได้มีพระราชดำริให้นายพลากร สุวรรณรัฐ และคณะเดินทางไปติดตามพร้อมทั้งให้ข้อแนะนำและเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ปฏิบัติ งานทุกส่วน ตลอดรวมถึงราษฎร ในโครงการทั้งนี้เพื่อให้การดำเนินงานเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนเป็นประการสำคัญ.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2553
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=340&contentID=49427
ข่าวที่เกี่ยวข้อง นำเลี้ยงปูนิ่ม-พัฒนาท่องเที่ยว วิถีสร้างอาชีพของ วชช.เพื่อชุมชน
'ไม้ผลแปลกและหายาก' ที่น่าปลูกในปี พ.ศ.2554
คาดลำไยปีหน้าราคาพุ่ง "ธีระ" ฟุ้งแผนบริหารจัดการดี มุ่งเน้นเดินตามกลไกตลาด
ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง ลดต้นทุนการผลิตได้
วช.หนุนวิจัยปลานิล "จิตรลดา3" คุณภาพเหมาะเลี้ยงเชิงพาณิชย์
บริหารนำเข้ากาแฟสำเร็จรูป สกัดผลกระทบเปิดเสรีอาฟตา กษ.จับตาล้นตลาด-ราคาร่วง
วิจัย "ดีเอ็นเอ" แตงกวา มก.พัฒนา ต้านราน้ำค้าง