เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 52
กรมวิชาการเกษตรสั่งด่านตรวจพืชทั่วประเทศ คุมเข้มสินค้าผักผลไม้ส่งออกและนำเข้า โดยเฉพาะสินค้าจากจีน พบมีอัตราเสี่ยงศัตรูพืชสูง พร้อมกำชับอำนวยความสะดวกผู้ส่งออกตามมาตรฐาน
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ได้สั่งให้ด่านตรวจพืชทั้ง 37 แห่งทั่วประเทศ เพิ่มมาตรการเข้มงวดในการควบคุมการนำเข้าและส่งออกสินค้าพืชมากขึ้น โดยให้ตรวจสอบสินค้าอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้มีศัตรูพืชติดไปกับพืชผักผลไม้ที่ส่งออก ซึ่งอาจเกิดปัญหาถูกตีกลับสินค้า ทั้งยังเป็นการป้องกันโรคและศัตรูพืชกักกันจากต่างประเทศหลุดลอดเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทย โดยเฉพาะสินค้าพืชผักผลไม้ที่นำเข้าจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่อัตราเสี่ยงมีศัตรูพืชติดมาค่อนข้างสูง
นอกจากนี้ จะต้องอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการและผู้ส่งออก โดยให้บริการด้านการตรวจสอบและออกใบรับรองสุขอนามัยพืชให้แก่สินค้าพืชที่ส่งออก ตามมาตรฐานระหว่างประเทศทางด้านสุขอนามัยพืชที่สอดคล้องกับความตกลงว่าด้วยการใช้มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช ภายใต้องค์การการค้าโลก และเป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขการนำเข้าของประเทศคู่ค้าด้วย
ปีที่ผ่านมามีการออกใบรับรองสุขอนามัยพืชให้แก่พืชและผลิตผลพืชเพื่อส่งออก รวมทั้งสิ้น 267,014 ฉบับ และปี 2552 ตั้งเป้าให้บริการตรวจสอบและออกใบรับรองสุขอนามัยพืชอย่างน้อย 2.6 แสนฉบับ
“ศัตรูพืชกักกันที่ตรวจพบมีหลายชนิด หากตรวจพบผู้ส่งออกต้องกำจัดศัตรูพืชด้วยวิธีที่เหมาะสม จากนั้นเจ้าหน้าที่จะสุ่มตรวจสินค้าอีกครั้ง ถ้าไม่พบศัตรูพืชจึงจะออกใบรับรองสุขอนามัยพืชให้” นายสมชายกล่าวและว่า ปัจจุบันการตรวจสอบศัตรูพืชบางชนิดต้องใช้เทคโนโลยีระดับสูง และมีค่าใช้จ่ายสูง ทำให้ภาครัฐต้องแบกรับภาระดังกล่าว ดังนั้น ผู้นำเข้าและส่งออกจึงต้องรับผิดชอบในส่วนนี้ โดยจะต้องเสียค่าธรรมเนียมสำหรับใบอนุญาตนำเข้าหรือนำผ่านสิ่งต้องห้าม และใบอนุญาตนำเข้าหรือส่งออกเชื้อพันธุ์พืช ฉบับละ 200 บาท ค่าธรรมเนียมการออกใบรับรองสุขอนามัยพืชฉบับละ 200 บาท ส่วนใบแทนใบรับรองสุขอนามัยพืชฉบับละ 100 บาท
ที่มา : หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2552
http://www.komchadluek.net/2009/02/18/x_agi_b001_337678.php?news_id=337678