เร่งติดตั้งโปรแกรมดินไทยทั่วประเทศ ช่วยเกษตรกรบริหารจัดการพืชอย่างดีเยี่ยม
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 52
เร่งติดตั้งโปรแกรมดินไทยทั่วประเทศ ช่วยเกษตรกรบริหารจัดการพืชอย่างดีเยี่ยม
เมื่อปีที่ผ่านมา สถานการณ์ปุ๋ยเคมีมีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างมาก จนทำให้เกษตรกรเดือดร้อนกันถ้วนหน้า เพราะต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่การที่ปุ๋ยเคมีแพงขึ้นครั้งนั้นไม่ได้นับเป็นวิกฤติแค่อย่างเดียว เพราะนี่ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะช่วยให้เกษตรกรตระหนักถึงการใช้ปุ๋ยเคมีอย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น รวมถึงมีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทดแทน เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิต ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ มอบหมายให้กรมพัฒนาที่ดิน กรมการข้าว กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร ร่วมมือกันจัดทำโปรแกรมเพื่อให้คำแนะนำในการใช้ปุ๋ยเคมีอย่างมีประสิทธิภาพแก่เกษตรกร โดยเน้นการใช้ปุ๋ยให้ถูกต้องเหมาะสมกับดินและพืชที่ปลูก เพื่อเป็นการลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยและคุ้มกับค่าใช้จ่ายที่เสียไป
นายฉลอง เทพวิทักษ์กิจ รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า ผลจากการร่วมมือกันจึงได้มีการพัฒนาโปรแกรมขึ้นมา 2 โปรแกรม คือโปรแกรมดินไทยและธาตุอาหารพืช และ โปรแกรม คำแนะนำการจัดการดินและปุ๋ยรายแปลง ซึ่งโปรแกรมดินไทยและธาตุอาหารพืช เป็นคำแนะนำเบื้องต้นสำหรับการเลือกใช้ปุ๋ยเคมีให้ถูกต้องสอดรับกับข้อมูลผลการวิเคราะห์ดินที่กรมพัฒนาที่ดินได้เคยมีการสำรวจวิเคราะห์ดินมาก่อนแล้ว เป็นประโยชน์สำหรับเกษตรกรที่ยังไม่เคยมีการ วิเคราะห์ดินในแปลงของตนเอง โปรแกรมนี้ได้ดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงจนถึงปัจจุบันรวม 3 รุ่น ล่าสุด คือ รุ่น 1.2 (เวอร์ชั่น 1.2) สามารถใช้เรียกดูข้อมูลแผนที่ดิน และแผนที่ภูมิประเทศของทุกตำบลได้พร้อมข้อมูลความรู้ด้านลักษณะดิน และคำแนะนำการใช้ปุ๋ยเคมีตามผลวิเคราะห์ธาตุอาหารที่มีอยู่ในดิน สำหรับการปลูกพืชเศรษฐกิจ 6 ชนิด ได้แก่ ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ้อย มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และยางพารา โปรแกรมนี้ได้พัฒนาเสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมแจกจ่ายได้ทั่วประเทศ
ส่วนโปรแกรมคำแนะนำการจัดการดินและปุ๋ยรายแปลง เป็นโปรแกรมที่ให้คำแนะนำการเลือกใช้ปุ๋ยเคมีตามค่าวิเคราะห์ดินของแปลงเกษตรกร เหมาะสำหรับเกษตรกรที่ทราบค่าข้อมูลผลการวิเคราะห์ดินในแปลงของตนเอง ซึ่งเป็นผลการวิเคราะห์ดินที่ตรวจวัดได้จากเครื่องมือวิเคราะห์ดินขนาดเล็ก หรือผลการวิเคราะห์ดินจากห้องปฏิบัติการของหน่วยราชการต่าง ๆ โปรแกรมนี้ได้พัฒนาให้ใช้งานง่ายขึ้น เพิ่มข้อมูลของสูตรปุ๋ยที่มีในท้องตลาดให้มากขึ้น และแนะนำวิธีการผสมปุ๋ยจากแม่ปุ๋ยไว้ใช้เอง
สำหรับการใช้โปรแกรมทั้ง 2 นี้ ได้จัดอบรมให้แก่เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อไปขยายผลในหน่วยงานของตนและถ่ายทอดความรู้สู่เกษตรกร รวมทั้งได้จัดวิทยากรเดินสายนำร่องเพื่ออบรมเจ้าหน้าที่ของรัฐและเกษตรกรในจังหวัดต่าง ๆ พร้อมทั้งแจกโปรแกรม และติดตั้งโปรแกรมดังกล่าวไว้ที่องค์การบริหารส่วนตำบล โรงปุ๋ยอินทรีย์-ชีวภาพชุมชน และจัดทำโปสเตอร์ แผนที่ดินไทยและธาตุอาหารพืชพร้อมคู่มือแนะนำการใช้ ติดไว้ที่ศูนย์การเรียนรู้การพัฒนาที่ดินตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง 800 ศูนย์ทั่วประเทศ
โปรแกรมทั้ง 2 โปรแกรม จะช่วยให้เกษตรกรทราบว่าที่ดินเป็นกลุ่มชุดดินใด ลักษณะดินเป็นอย่างไร พร้อมทั้งให้คำแนะนำการใช้ปุ๋ยอย่างเหมาะสม ซึ่งทั้ง 4 หน่วยงานได้ติดตามและประเมินผลการใช้โปรแกรมตลอดเวลา เพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงให้สามารถสนองความต้องการของเกษตรกรมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม ภายในปีนี้ จะจัดทำคำแนะนำการใช้ปุ๋ยเคมีอย่างเหมาะสมสำหรับไม้ผลที่สำคัญ ๆ ก่อนจะขยายสู่พืชอื่นตามลำดับ ดังนั้น เกษตรกรที่สนใจสามารถปรึกษากับหน่วยงานของ กรมพัฒนาที่ดิน กรมการข้าว กรมวิชาการเกษตร และกรมส่งเสริมการเกษตร ได้ทุกจังหวัด.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 4 มีนาคม 2552
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=192425&NewsType=1&Template=1
ข่าวที่เกี่ยวข้อง ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า