เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 52
ออสเตรเลียตรวจเข้มรถยนต์นำเข้าจากไทย หลังพบเมล็ดวัชพืชต้องห้ามติดไปจำนวนมาก กรมวิชาการเกษตรได้ประสานการท่าเรือและผู้ส่งออกปรับปรุงวิธีการตรวจสอบ พร้อมกำจัดวัชพืชรอบท่าเรือให้หมด
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ประเทศไทยได้รับแจ้งจากหน่วยงานกักกันและตรวจสอบแห่งประเทศออสเตรเลียว่า ในปีที่ผ่านมาออสเตรเลียได้ตรวจพบเมล็ดวัชพืชกักกันซึ่งอยู่ในบัญชีรายชื่อพืชต้องห้ามนำเข้าของออสเตรเลียหลายชนิด เช่น เมล็ดธูปฤาษี พงหญ้าคา และสาบเสือ ติดไปกับรถยนต์ที่นำเข้าจากประเทศไทยจำนวนมาก ทำให้ออสเตรเลียต้องเพิ่มความเข้มงวดในการสุ่มตรวจรถยนต์ที่นำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้น โดยสุ่มตรวจที่ท่านำเข้าของออสเตรเลียประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์ และหากตรวจพบเมล็ดวัชพืชติดไปกับรถยนต์เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจ 100 เปอร์เซ็นต์ทันที โดยผู้นำเข้าจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบทั้งหมด รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการล้างทำความสะอาดรถยนต์ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่สูงมาก และที่สำคัญคือ การดำเนินการตรวจสอบและกำจัดวัชพืชดังกล่าวต้องใช้เจ้าหน้าที่จำนวนมากและเสียเวลาในการดำเนินการ ทำให้ส่งผลกระทบต่อการตรวจและปล่อยสินค้า ณ ท่านำเข้าของออสเตรเลีย
ดังนั้น หน่วยงานกักกันและตรวจสอบแห่งประเทศออสเตรเลีย จึงขอให้กรมวิชาการเกษตรช่วยกำกับดูแล ป้องกันและกำจัดวัชพืชก่อนการส่งออกรถยนต์ไปออสเตรเลีย กรมวิชาการเกษตรจึงได้ร่วมประชุมหารือกับผู้ส่งออกรถยนต์ไปออสเตรเลีย เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาโดยการจัดทำมาตรฐานการตรวจรถยนต์ก่อนส่งออกให้แต่ละบริษัทได้นำไปใช้ รวมทั้งได้ขอให้การท่าเรือแหลมฉบังกำจัดวัชพืชทั้งในและนอกบริเวณการท่าเรือออกให้หมด
"ภายหลังจากผู้ส่งออกรถยนต์ได้ปรับปรุงวิธีการตรวจสอบ และเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบรถยนต์เพิ่มขึ้น ประกอบกับการท่าเรือแหลมฉบังได้กำจัดวัชพืชออกจากพื้นที่จนหมด ทำให้การตรวจพบเมล็ดหญ้าติดไปกับรถยนต์มีจำนวนลดลงเป็นจำนวนมาก" อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 19 มีนาคม 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=153409