เมื่อวันที่ 1 เมษายน 52
นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยความคืบหน้าความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหารในภูมิภาคอาเซียนว่า กลุ่มประเทศอาเซียนได้กำหนดให้มีการเพิ่มผลผลิตพืชอาหาร 5 ชนิด ที่เป็นพืชอาหารที่มีความมั่นคง ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด อ้อย มันสำปะหลัง และถั่วเหลือง ซึ่งในส่วนของประเทศไทยพืช 3 ชนิดที่มีศักยภาพในการผลิตและส่งออกคือ ข้าว มันสำปะหลัง และอ้อย เนื่องจากเป็นพืชที่ไทยมีศักยภาพในการเพาะปลูก ทั้งด้านพันธุ์ที่มีคุณภาพ และเทคโนโลยีที่สามารถช่วยเพิ่มผลผลิต โดยเฉพาะมันสำปะหลังของไทยเป็นพันธุ์ที่ดี ให้ผลผลิตสูง ซึ่งขณะนี้ผลผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ 3 ตันกว่าต่อไร่ บางแห่งได้ 15-30 ตันต่อไร่ เพราะสามารถใช้เทคโนโลยีเข้าไปช่วยเสริม อ้อยก็เช่นกันสามารถเพิ่มผลผลิตได้ไม่ยาก
ส่วนการเพิ่มผลผลิตข้าวนั้นถึงแม้ว่าเราจะมีพันธุ์ดีเพิ่มผลผลิตได้ถึง 100 ถังต่อไร่ แต่ที่สำคัญคือเรื่องของน้ำ ระบบชลประทาน ที่จำเป็นต้องเพิ่มพื้นที่ชลประทานให้เพียงพอ เนื่องจากถ้ามีแหล่งน้ำเพียงพอจะสามารถเพิ่มรอบการเพาะปลูกได้อีก ผลผลิตก็จะเพิ่มขึ้นมหาศาล ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีแผนปรับโครงสร้างพื้นฐานอยู่แล้ว โดยตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่ชลประทานให้มากขึ้นถึง 60 ล้านไร่ แต่เป็นแผนระยะยาว 15 ปี ดังนั้นเรื่องการเพิ่มผลผลิตข้าวคงต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร
แต่พืชที่น่าเป็นห่วงคือถั่วเหลือง เพราะนอกจากเราจะผลิตไม่พอใช้ภายในประเทศ ยังต้องพึ่งพาการนำเข้าจำนวนมาก โดยเราผลิตได้เพียงปีละ 2 แสนตัน ขณะที่ความต้องการใช้สูงถึงปีละ 2 ล้านตัน ดังนั้นจำเป็นต้องรักษากลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองให้ดี เนื่องจากเป็นพืชที่ทั่วโลกใช้ระบบการปลูกแบบจีเอ็มโอหมดแล้วเว้นแต่ประเทศไทย ทำให้เป็นที่ต้องการของหลายประเทศที่ต่อต้านพืชจีเอ็มโอ จึงต้องเร่งฟื้นฟูเกษตรกรกลุ่มนี้ไม่ให้ลดปริมาณการปลูก
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 1 เมษายน 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=155183