เมื่อวันที่ 2 เมษายน 52
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ได้ร่วมกันพิจารณาเร่งด่วน คือ แผนการบริหารจัดการผลไม้ภาคตะวันออกที่ขณะนี้เริ่มทยอยออกสู่ตลาดแล้ว โดยคาดว่าจะมีผลผลิตทั้งหมด 741,380 ตัน ซึ่งน้อยกว่าปีที่ผ่านมา 10% แต่เกษตรกรก็ยังอาจได้รับผลกระทบในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดพร้อมๆ กันระหว่างเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน
อย่างไรก็ตาม จากการรวบรวมแผนการแก้ไขปัญหาของกรมส่งเสริมการเกษตร คาดว่า จะมีมีผลไม้ที่จำเป็นต้องหามาตรการต่างๆ มาบริหารจัดการ เพื่อป้องกันปัญหาผลผลิตล้นตลาด และไม่ให้เกษตรกรได้รับผลกระทบด้านราคาจำนวนทั้งสิ้น 297,605 ตัน หรือคิดเป็น 40 % ของผลผลิตรวม ซึ่งเบื้องต้นที่ประชุมได้เห็นชอบในกรอบแนวทางดำเนินงานแล้ว 5 มาตรการหลักเพื่อบริหารจัดการผลผลิต ได้แก่ 1.การบริหารจัดการคุณภาพการผลิต เป้าหมายรวมจำนวน 55,000 ตัน 2.การกระจายผลผลิตภายในประเทศ 56,260 ตัน 3.มาตรการผลักดันการส่งออก รวม 144,080 ตัน 4.ส่งออกผลผลิตแช่แข็ง 10,000 ตัน สนับสนุนการแปรรูป 9,990 ตัน และ 5.รวบรวมผลผลิตผ่านสถาบันเกษตรกร 22,275 ตัน
นายธีระกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับงบประมาณที่จะดำเนินการตามแผนที่แต่ละจังหวัดเสนอมานั้น คาดว่า จะใช้งบประมาณดำเนินการประมาณ 300 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณจ่ายขาด และงบประมาณหมุนเวียน โดยจะใช้งบประมาณของแต่ละจังหวัดรวมกับงบประมาณจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนที่มีการขอเพิ่มเติมนั้นจะมีการเสนอขอรับการสนับสนุนจากคณะกรรมการนโยบายช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ซึ่งได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตร และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรพิจารณามาตรการต่างๆ และแผนการใช้งบประมาณอย่างรอบคอบอีกครั้งโดยเร่งด่วน ก่อนเสนอขอรับเงินสนับสนุนในส่วนของเงิน คชก. เพื่อให้การเข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหาผลไม้ภาคตะวันออกอย่างมีประสิทธิภาพ และทันต่อสถานการณ์
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 2 เมษายน 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=155301