เมื่อวันที่ 8 มกราคม 52
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า เนื่องจากไทย-มาเลเซียมีพรมแดนและจุดส่งผ่านสินค้าตามแนวตะเข็บชายแดนมากถึง 16 จุด แต่ที่ผ่านมาพบว่า มีปัญหาในขั้นตอนการปฏิบัติ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการส่งออก-นำเข้าสินค้าเกษตร โดยเฉพาะข้าว พืชผัก ผลไม้ ไม้ดอกไม้ประดับ รวมถึงเมล็ดพันธุ์พืช ไปยังประเทศที่สาม เช่น สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย
ดังนั้น เพื่อสร้างความร่วมมือด้านการกักกันพืชให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ภายใต้ มาตรการของอนุสัญญาว่าด้วยการอารักขาพืชระหว่างประเทศ (IPPC) จึงเดินทางเข้าร่วมประชุมหารือกับเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรของประเทศมาเลเซีย เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงให้ประเทศดังกล่าวทราบว่า กลุ่มสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศ ได้ประกาศรับรองพื้นที่ปลูกข้าวประเทศสมาชิกเป็นเขตปลอดด้วงอิฐ ซึ่งเป็นศัตรูพืชกักกัน ฉะนั้น สินค้าข้าวและแป้งของไทยจึงไม่จำเป็นต้องรมสารเมทิลโบรไมด์ (Methyl bromide) ก่อนส่งผ่านชายแดนมาเลเซีย
นอกจากนี้ ยังได้เจรจาแก้ไขปัญหาการส่งออกเมล็ดพันธุ์พืชไปยังมาเลเซีย โดยได้สร้างความเชื่อมั่นในศักยภาพการผลิต และมาตรการกำจัดวัชพืชที่อาจตกค้างปนเปื้อนติดไปกับเมล็ดพันธุ์พืชที่ส่งออก พร้อมทั้งยกร่างกฎระเบียบควบคุมบรรจุภัณฑ์ไม้จากต่างประเทศที่นำเข้าสู่ ประเทศไทยนั้น ต้องมีการกำจัดแมลงศัตรูพืชที่อาจติดอยู่ในเนื้อไม้และบรรจุภัณฑ์ก่อน ซึ่งเป็นไปตามมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (SPS) ภายใต้มาตรฐานระหว่างประเทศว่าด้วยมาตรการสุขอนามัยพืช ISPM No.15 ซึ่งภายหลังผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการกักกันพืชแล้ว คาดว่ากระทรวงเกษตรฯจะประกาศใช้กฎระเบียบดังกล่าวภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 นายสมชายกล่าว.
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 8 มกราคม 2552
http://www.thairath.co.th/news.php?section=agriculture&content=118167