เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 52
นางสาวนิศากร โฆษิตรัตน์ เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีชนิดพันธุ์สัตว์และพืชต่างถิ่นที่เข้ามาและแพร่ระบาดในประเทศไทยรวมกว่า 3,500 ชนิด อาทิ หอยเชอรี่ยักษ์ เพลี้ยไฟเพลี้ยอ่อนในนาข้าว ซึ่งเป็นตัวการในการทำให้หอยโข่งที่เป็นสัตว์พื้นเมืองลดจำนวนลง และทำให้นาข้าวเสียหาย เกษตรกรขาดรายได้ และผักตบชวา ผักน้ำอื่นๆ ที่กีดขวางการคมนาคมทางน้ำเกือบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงเต่าญี่ปุน ปลาซักเกอร์ที่ขยายพันธุ์รวดเร็ว จนเกิดการแย่งชิงอาหารในระบบนิเวศและมีการสูญพันธุ์ของสัตว์ท้องถิ่นในที่สุด ซึ่งจุดประสงค์ในการนำเข้ามาส่วนใหญ่เพื่อใช้ในการเกษตร หรือการเพาะเลี้ยงเพื่อการค้าเท่านั้น แต่เมื่อมีการขยายพันธุ์มากขึ้นและขาดการควบคุม รวมถึงสัตว์และพืชต่างถิ่นเหล่านี้ เจริญเติบโตได้ดีและขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วในสภาวะแวดล้อมของประเทศไทย จนกลายเป็นชนิดพันธุ์สัตว์และพืชต่างถิ่นที่รุกราน และส่งผลคุกคามต่อความหลากหลายทางชีวภาพ ตลอดจนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจระดับประเทศในที่สุด คิดเป็นมูลค่าความเสียหายจากชนิดพันธุ์สัตว์และพืชต่างถิ่นที่รุกรานเหล่านี้ปีละกว่า 1 พันล้านบาท นอกจากนี้ ในปัจุจบันยังมีการเข้ามาและแพร่ระบาดทางพรมแดนประเทศเพื่อนบ้าน ยานพาหนะในการขนส่งสินค้า หรือแม้แต่การเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยว
เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวด้วยว่า กระทรวงฯ และรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบออกมาตรการป้องกัน ควบคุม และกำจัดชนิดพันธุ์สัตว์และพืชต่างถิ่น พร้อมขึ้นทะเบียนและเผยแพร่ต่อสาธารณชนให้เป็นพืชและสัตว์ที่ห้ามนำเข้า ไม่ครอบครอง ไม่เพาะเลี้ยง ไม่ปลูก ไม่ขยายพันธุ์ ไม่แจกจ่าย รวมถึงสนับสนุนการวิจัยในการกำจัดและควบคุม เพื่อจัดการชนิดพันธุ์สัตว์และพืชต่างถิ่นที่กระทบต่อระบบนิเวศให้หมดไป
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 26 พฤษภาคม 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=162980