เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 52
นายอภิชาติ จงสกุล ในฐานะโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ว่า ที่ประชุมพิจารณาการเปิดตลาดสินค้าเกษตรภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) แล้วมอบหมายให้คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือหน่วยงานหลักของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่เกี่ยวข้องในแต่ละรายสินค้าหารือร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ฯลฯ เร่งกำหนดมาตรการเพื่อรองรับผลกระทบที่อาจขึ้นจากการประกาศลดอัตราภาษีสินค้าตามข้อผูกพัน AFTA เหลือร้อยละ 0 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 โดยมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรรวบรวมมาตรการทั้งหมดนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ ภายในเดือนกันยายน 2552 และเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบก่อนประกาศใช้ต่อไป
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีสินค้าที่ผูกพันตามข้อตกลง AFTA จำนวน 23 รายการ ได้แก่ น้ำนมดิบ/นมปรุงแต่ง นมผงขาดมันเนย ลำไยแห้ง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กระเทียม หอมหัวใหญ่ เมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ มันฝรั่ง พริกไทย ข้าว เมล็ดถั่วเหลือง กากถั่วเหลือง น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันปาล์ม มะพร้าวผล น้ำมันมะพร้าว เนื้อมะพร้าวแห้ง ชา เมล็ดกาแฟ กาแฟสำเร็จรูป ไหมดิบ น้ำตาล และใบยาสูบ โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ตามข้อตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน ประเทศไทยจะต้องลดภาษีสินค้าลงเหลือ ร้อยละ 0 ยกเว้นสินค้าอ่อนไหว 3 ชนิด คือ มันฝรั่ง เนื้อมะพร้าวแห้ง และเมล็ดกาแฟ ซึ่งจะลดภาษีลงเหลือ ร้อยละ 5 สำหรับแนวทางการออกมาตรการจะเน้นมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี เช่น การกำหนดมาตรฐานสินค้า การกำหนดผู้นำเข้า การเข้มงวดในการตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้า เป็นต้น ซึ่งคาดว่าการออกมาตรการต่างๆ จะช่วยป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสินค้าเกษตรและเกษตรกรของไทย ภายหลังการประกาศลดภาษี ตั้งแต่ 1 มกราคม 2553
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 1 มิถุนายน 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=163928