จบ ป.6 ทำเกษตรทฤษฏีใหม่ ดำเนินชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีรายได้ 500,000 กว่าบาทต่อปี ไม่มีหนี้สิน
เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 52
จบ ป.6 ทำเกษตรทฤษฏีใหม่ ดำเนินชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีรายได้ 500,000 กว่าบาทต่อปี ไม่มีหนี้สิน
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) จัดโครงการสื่อมวลชนสัญจร โครงการเฉลิมพระเกียรติ “วิถีแห่งพอเพียงตามแนวพระราชดำริ” ขึ้นโดยนำคณะสื่อมวลชนเข้าเยี่ยมชมงานในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่จังหวัดระยอง และจันทบุรี หลายโครงการด้วยกันหนึ่งในนั้นก็มี เกษตรกรตัวอย่างศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี ของนายฉลวย จันทแสง เกษตรกรตำบลรำพัน อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี
นายฉลวย จันทแสง ปัจจุบันอายุ 55 ปี จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จากศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เดิมประกอบอาชีพทำนาบนพื้นที่ 15 ไร่ ทำสวนผลไม้ 15 ไร่ แต่ในช่วงปี พ.ศ. 2530 ได้ปรับพื้นที่นามาปลูกไม้ผลจนเต็มพื้นที่ 30 ไร่ จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2545 งานวิชาการเกษตรร่วมกับสถานีพัฒนาที่ดินจันทบุรีและงานส่งเสริมการเกษตร ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้เข้ามาแนะนำและส่งเสริมการประกอบอาชีพ
เกิดความสนใจจึงสมัครเข้าเป็นสมาชิกและร่วมโครงการ ซึ่งทางศูนย์ฯ ได้ให้เข้ารับการฝึกอบรมในสาขาวิชาชีพด้านต่าง ๆ เช่น การทำเกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรผสมผสาน ตลอดจนแนวทางการดำเนินชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในปี พ.ศ. 2547 งานวิชาการเกษตร ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้สนับสนุนโครงการการผลิตพืชผักและผลไม้ให้มีคุณภาพและปลอดภัยจากสารพิษ รวมถึงการใช้ปุ๋ยพืชสด การผลิตปุ๋ยหมักชีวภาพแห้ง น้ำชีวภาพและสารสกัดจากพืชป้องกันกำจัดแมลงขึ้นใช้เอง เพื่อลดต้นทุนการผลิต
ปัจจุบันสภาพสวนของนายฉลวย นับว่าจัดสัดส่วนได้อย่างลงตัว บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย มีไม้ผลหลากหลายชนิด เช่น ทุเรียน มังคุด ลองกอง เงาะ รวมถึงพริกไทย เมื่อมีคณะเข้ามาเยี่ยมชมก็มีความยินดีต้อนรับและร่วมสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พาเยี่ยมชมกิจกรรมต่าง ๆ ในสวนอย่างมีความสุขและเป็นกันเอง
จากความขยันหมั่นเพียร มีความมานะอดทน และพยายามเอาใจใส่ดูแลต้นไม้ที่ปลูกไว้อย่างตั้งอกตั้งใจ ประกอบกับการได้เรียนรู้เพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ อีกมากมาย ทำให้นายฉลวย มีความเข้าใจในอาชีพ ลักษณะนิสัยของพืชแต่ละชนิดที่ปลูก เข้าใจธรรมจิตและเข้าใจการดำเนินชีวิตของตนเองมากขึ้น และยังได้เสียสละเวลาส่วนตัวมาแนะนำเพื่อนบ้านให้ปฏิบัติตาม
เมื่อปี พ.ศ. 2547 กรมพัฒนาที่ดินได้พิจารณาคัดเลือกให้เป็นวิทยากรและหมอดินอาสา บรรยายให้แก่เกษตรกร นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนนักวิชาการในสถานที่ต่าง ๆ มากมาย สำนักงานเกษตรอำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ได้พิจารณาคัดเลือกนายฉลวย ให้เป็นเกษตรกรดีเด่นระดับอำเภอ ประจำปี 2549 สาขาเศรษฐกิจพอเพียง
ความมุ่งหวังในชีวิตมีแนวความคิดที่จะถ่ายทอดความรู้ ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงให้เกษตรกรเพื่อนบ้านใกล้เคียงนำไปปฏิบัติตาม โดยเฉพาะการทำการเกษตรเพื่อลดต้นทุนการผลิต และรักษาสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น ตลอดจนสุขอนามัย และมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต
ปัจจุบันนายฉลวย มีรายได้สุทธิ 35,400 บาทต่อไร่ เนื้อที่ปลูกพืชสวน 15 ไร่ ซึ่งให้ผลผลิตได้อย่างเต็มที่ ปีหนึ่ง ๆ จึงมีรายได้ที่ไม่น้อยกว่า 500,000 บาท โดยไม่มีหนี้สิน นับเป็นแบบอย่างแก่เกษตรกรโดยทั่วไปได้ดีทีเดียว.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 11 มิถุนายน 2552
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=201717&NewsType=1&Template=1
ข่าวที่เกี่ยวข้อง ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า