เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 52
ปัญหา หนึ่งที่มักจะเกิดในสังคมไทยต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน คือปัญหาที่คนในพื้นที่ทิ้งถิ่นฐานไปหางานทำในเมืองใหญ่ โดยเหตุผลที่ยกมากล่าวอ้างถึงการโยกย้ายไปทำอาชีพนอกพื้นที่ คือ "อยู่บ้านก็อดตายไม่มีอะไรกิน.."
จาก จุดเริ่มต้นของปัญหานี้ บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ นำมาเป็นโจทย์ใหญ่ ในการหาทางแก้ไขนำพาชาวบ้านไปสู่การอยู่ดีกินดี และมี "อาชีพ" ที่มั่นคงในพื้นที่หรือหมู่บ้านของตน โดยไม่ต้องออกเดินทางไปทำงานในต่างถิ่น สามารถทำงานได้ที่บ้านบนที่ดินของตนเอง เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่เกิดผลพลอยได้ให้คนรักพื้นที่บ้านเกิด
โครงการ ที่ซีพีเอฟ นำมาดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหานี้มีชื่อว่า โครงการส่งเสริมอาชีพเกษตรกร เป็นการส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรให้อยู่ได้อย่างยั่งยืน ซึ่งมีวิธีการดำเนินการ 2 รูปแบบ คือ การประกันราคาพืชผลหรือสัตว์เลี้ยง และการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์ โดยเน้นไปที่ไก่ ปลา และสุกร
ที่ ตำบลบ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ทางซีพีเอฟใช้ในการทดลองโครงการ โดยเข้าไปส่งเสริมให้เกษตรกรมีอาชีพสร้างรายได้ด้วยการเลี้ยงสุกร
ทรง ศักดิ์ ฟูตระกูล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายธุรกิจครบวงจรภูมิภาค ซีพีเอฟ บอกเล่าถึงวิธีการคัดเลือกเกษตรกรเพื่อเข้าร่วมในโครงการว่า เริ่มจากการคัดเลือกเกษตรกรในแต่ละจังหวัด ว่าใครมีความเหมาะสม
โรงเรือนภายในฟาร์ม
วิธีการ คือให้เกษตรกรเป็นผู้เขียนโครงการของตนเองแล้วส่งมาให้ซีพีเอฟพิจารณา โดยมีเงื่อนไขว่าเกษตรที่จะเข้าร่วมโครงการได้จะต้องมีหลักทรัพย์ และที่ดินที่จะใช้ในโครงการ
"จากนั้นทางเราจะพิจารณาดูว่าที่ดินของเกษตรกรมีความเหมาะสมหรือไม่ แล้วช่วยติดต่อกับสถาบันทางการเงินให้ออกเงินกู้ให้ในการทำ
โครงการ แต่คนสุดท้ายที่ตัดสินใจคือธนาคารนั่นเอง เพราะจะต้องเป็นคนกำหนดว่าเกษตรจะต้องจ่ายเงินคืนในระยะเวลาเท่าไหร่ อย่างไร"
ทรง ศักดิ์บอกว่า เมื่อโครงการผ่านการพิจารณาของธนาคารแล้ว ทางซีพีเอฟจะเป็นผู้จัดหาพันธุ์สัตว์ อาหารสัตว์ ยา และวัคซีน ที่มีคุณภาพสูงให้กับเกษตรกร ส่วนตัวของเกษตรกรเองนั้น ซีพีเอฟจะถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีต่างๆ ให้ โดยผ่านทางศูนย์การเรียนรู้ ที่เรียนรู้ผ่าน "ของจริง" มีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ให้คำปรึกษา และเมื่อชำนาญจนสามารถทำเองได้แล้ว เกษตรกรที่ผ่านการเรียนรู้นี้ก็จะไปทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงสอนเกษตรกรคน อื่นๆ ต่อไป
"ไม่เฉพาะแค่ที่กล่าวมาเท่านั้น ซีพีเอฟยังทำหน้าที่จัดหาสัตวบาล มาคอยดูแลและให้คำแนะนำในการเลี้ยงดูสัตว์แก่เกษตรกรเจ้าของโครงการอย่าง ใกล้ชิด โดยเฉพาะการให้คำแนะนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเกษตรกรได้เรียนรู้อย่างถูกต้องสามารถนำไปปฏิบัติได้เอง รวมไปถึงเรื่องการตลาด ซีพีเอฟก็จะดูแลรับผิดชอบให้ด้วย" ทรงศักดิ์บอก
สำหรับที่ ต.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรีแห่งนี้ กฤษฎา คุณากรประพันธ์ วัย 29 ปี เป็นเกษตรกรที่ผ่านการคัดเลือกได้เข้าร่วมโครงการของซีพีเอฟ
กฤษฎาเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่ไฟแรง มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขของซีพีเอฟ และตัดสินใจทำอาชีพ "ฟาร์มหมู" เพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิต
" จุดเริ่มต้นที่ผมอยากทำฟาร์มหมูเกิดขึ้นหลังจากเรียนจบคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม แล้วมีโอกาสไปเยี่ยมญาติที่ทำฟาร์มหมูใน จ.นครปฐม ผมสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากญาติ แล้วคิดว่าอาชีพนี้น่าจะเป็นธุรกิจที่มีรายได้มั่นคงและคุ้มค่ากับการลงทุน เมื่อตัดสินใจว่าผมจะทำอาชีพนี้แหละเพราะอยากกลับมาอยู่บ้านและอยากจะทำงาน ที่เป็นของตัวเอง ก็ปรึกษากับพ่อแม่ ท่านเห็นดีด้วย จึงลงมือทำโครงการทันที"
กฤษฎาบอกว่า เริ่มแรกใช้เงินทุนส่วนตัว 40% และซีพีเอฟช่วยติดต่อกู้จากธนาคาร 60% เป็นเงินทั้งหมด 13 ล้านบาท จากนั้นลงมือปลูกสร้างโรงเรือนหลังแรกเลี้ยงหมู 500 ตัวก่อน มีซีพีเอฟเข้ามาให้คำปรึกษาและช่วยเหลือตลอด กระทั่งหมูรุ่นแรกสามารถขายทำรายได้อย่างงาม
"พอเลี้ยงหมูได้ประมาณ 2 รุ่น ก็คิดว่าธุรกิจนี้น่าจะไปได้มากกว่านี้ ผมจึงวางแผนผังระบบฟาร์มและมีระบบไบโอแก๊สเข้ามาช่วยด้วย ตอนนี้เริ่มชำนาญมากขึ้นแล้ว ดังนั้น โรงเรือนหลังที่ 2 และ 3 จึงมีการนำของเสียหรือมูลหมู มาผลิตไบโอแก๊สนำไปใช้ปั่นไฟเป็นการประหยัดต้นทุนไปได้มาก และยังได้กำไรเพิ่มมากขึ้น จึงสร้างโรงเรือนหลังที่ 4-5 ตามลำดับ ถึงปัจจุบันเลี้ยงหมูถึง 3,100 ตัว บนพื้นที่ฟาร์ม 25 ไร่" เสียงเล่าอย่างภาคภูมิใจ และว่า รายได้จากการเลี้ยงหมูนั้น เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วจะได้กำไรปีละประมาณ 1 ล้านบาท
ทุกวันนี้ "กฤษฎา" ไม่ต้องโยกย้ายไปทำงานในเมืองใหญ่ ไม่ต้องไปเป็นลูกจ้างใคร ตรงกันข้ามเขามีธุรกิจเป็นของตนเอง โดยเป็นเจ้าของฟาร์มหมูชื่อ "บ่อพลอย" และทำงานเป็นนายตัวเองอย่างสบายใจ
สิ่งที่กฤษฎาได้เรียนรู้นั้นเขา ได้นำมาถ่ายทอดเป็นความรู้และประสบการณ์เพื่อบอกเล่าและสอนเกษตรกรรุ่นน้อง ต่อๆ กันไป เป็นการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนและมั่นคง
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน วันที่ 25 มิถุนายน 2552
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01pra02250652§ionid=0131&day=2009-06-25