เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 52
รายงานข่าวจากสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เผยว่า ในช่วงกลางปี 2552 ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรในภาคอีสานหันมาปลูกปาล์มน้ำมันมากขึ้น แม้ในบางพื้นที่จะมีสภาพแห้งแล้ง หรือไม่มีศักยภาพที่เหมาะสมต่อการปลูกก็ตาม แต่ระยะหลัง ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคารับซื้อปาล์มน้ำมันสูงขึ้นเช่นกัน ก็มีแนวโน้มว่า เกษตรกรในภาคอีสานหันมาปลูกปาล์มน้ำมันมากขึ้นอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันหนองคายระบุว่า การปลูกปาล์มน้ำมันในภาคอีสาน ขึ้นอยู่กับโอกาสและเงื่อนไข คือ ปาล์มน้ำมันต้องการน้ำและการกระจายของฝนมาก เพราะการสร้างทะลายปาล์มจะใช้เวลาในการก่อช่อดอกประมาณ 1 ปี หลังจากนั้นจึงจะให้ผลผลิตในปีที่ 3 แต่หากขาดน้ำอย่างต่อเนื่อง ช่อดอกตัวเมียจะเกิดสภาวะเครียดและเปลี่ยนไปเป็นดอกกะเทยแทน สุดท้ายก็จะไม่ได้ผลผลิต ดังนั้นเกษตรกรที่ยังไม่ตัดสินใจปลูกในขณะนี้ ควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด นับตั้งแต่เรื่องดิน แหล่งน้ำ ตลาดรับซื้อ เพราะกว่าจะได้ผลผลิตปาล์มน้ำมัน จะต้องใช้เวลาและต้นทุนในการผลิตที่สูง ทางที่ดีควรปลูกปาล์มน้ำมันตามหัวไร่ปลายนา เพื่อหีบเอาน้ำมันไว้ใช้เองในชุมชนจะคุ้มทุนกว่า ซึ่งขณะนี้กรมวิชาการเกษตรกำลังพิจารณาประดิษฐ์เครื่องสกัดน้ำมันขนาดเล็กสำหรับใช้ในชุมชน จึงน่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสมของเกษตรกรในเวลานี้
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 25 มิถุนายน 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=167480