นำร่อง 9 กลุ่มผู้ผลิตรายย่อยสู่กระบวนการระบบการผลิตที่ถูกต้องในฟาร์ม
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 52
นำร่อง 9 กลุ่มผู้ผลิตรายย่อยสู่กระบวนการระบบการผลิตที่ถูกต้องในฟาร์ม
นายโอฬาร พิทักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีนโยบายเกี่ยวกับการผลิตพืชเพื่อให้ผลผลิตปลอดภัยได้มาตรฐาน จะทำให้เกษตรกรสามารถผลิตพืชเป็นระบบ มีมาตรฐานและมีความปลอดภัย ซึ่งในการดำเนินการผลิตดังนี้ ผลผลิตจะเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคและตลาดต่างประเทศ
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรได้ดำเนินการสอดรับนโยบายดังกล่าว ด้วยการจัดทำ
โครงการส่งเสริมการผลิตพืชที่มีคุณภาพและความปลอดภัยได้มาตรฐาน เพื่อให้ผลผลิตทางการเกษตรเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค ซึ่งนอกจากส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมแล้ว ยังมีเรื่อง
การจัดการคุณภาพมาจัดการระบบการผลิตในแปลงตามมาตรฐานระบบการผลิตที่ถูกต้องในฟาร์ม ตั้งแต่พื้นที่การปลูก การดูแลรักษา และการจัดการหลังเก็บเกี่ยว ซึ่งกรมส่งเสริมการเกษตรได้จัดการส่งเสริมขึ้นเพื่อให้เกษตรกรมีหลักการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี คือ การจัดระบบของการผลิตตั้งแต่ แหล่งน้ำที่ใช้ในการผลิต พื้นที่การผลิต การใช้วัตถุอันตรายทางการเกษตรและกระบวนการผลิต ทุกขั้นตอน และที่สำคัญเกษตรกรจะต้องมีการจดบันทึกการปฏิบัติงานไว้ตลอด เพื่อให้สามารถทวนสอบได้หากมีปัญหาเกิดขึ้น และระบบนี้ยังมีการตรวจรับรอง คุณภาพและความปลอดภัยของผลผลิตทางการเกษตร เพื่อสร้างความมั่นใจให้ กับผู้ส่งออก ผู้บริโภค และเกษตรกร ผู้เป็นเจ้าของการผลิต
สำหรับการจัดการผลิตตามระบบดังกล่าวของประเทศไทย ซึ่งเกษตรกร 5.3 ล้านครัวเรือน ที่ทำการเกษตรเป็นเกษตรกรรายย่อยเสียส่วนใหญ่ ทำให้การหาซื้อสินค้าที่มีคุณภาพปลอดภัยได้มาตรฐาน ไม่สะดวกและเพียงพอต่อความต้องการ จึงต้องมีการดำเนินการในโครงการดังกล่าว โดยจะนำร่องกับกลุ่มผู้ผลิตรายย่อยซึ่งจะแบ่งออกเป็น 9 กลุ่ม แบ่งภาคเหนือภาคอีสานและภาคใต้เป็นภาคละ 2 กลุ่ม ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตกจะเป็นภาคละ 1 กลุ่ม โดยมีทีมวิทยากรและอาสาสมัครเข้าไปอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับเรื่องระบบการจัดการคุณภาพและความปลอดภัยของผลผลิต เมื่ออบรมแล้วเจ้าหน้าที่จะเข้าไปให้คำแนะนำเป็นรายแปลง และในปี 2553 จะมีการขยายผลโครงการนี้ให้ครอบคลุมแก่กลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศ
“กรมฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเกษตรกร 5.3 ล้านคน จะได้รับความรู้เรื่องการผลิตตามระบบคุณภาพการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี เพราะเรามั่นใจว่าการทำการเกษตรระบบนี้จะเป็นผลดีต่อเกษตรกร ผลผลิตและสิ่งแวดล้อม ทั้งยังสร้างความเชื่อถือให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยจนสามารถแข่งขันกับตลาดต่างประเทศได้” นายโอฬาร พิทักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 26 มิถุนายน 2552
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=340&contentID=5178
ข่าวที่เกี่ยวข้อง ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า