เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 52
นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวถึงการส่งออกสินค้าเกษตรผ่านประเทศที่สามไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนโดย ใช้เส้นทางสาย R9 จากไทย-ลาว-เวียดนาม เข้าสู่ด่านผิงเสียงของจีนว่า ขณะนี้กระทรวงควบคุมคุณภาพและตรวจสอบกักกันโรคแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (AQSIQ) ได้ออกใบอนุญาตนำเข้าให้กับผู้ส่งออกของไทยแล้ว 1 บริษัท ซึ่งกรมวิชาการเกษตรเริ่มตรวจปล่อยสินค้าลอตแรกส่งออกไปจีนผ่านเส้นทาง R9 นี้ ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. 2552 ที่ผ่านมา โดยสินค้าผลไม้ที่ส่งออกลอตแรกมี 4 ตู้คอนเทนเนอร์ แบ่งออกเป็น ส้มโอจากจังหวัดนครปฐม 1 ตู้คอนเทนเนอร์ ลำไยจากจังหวัดเชียงใหม่ 2 ตู้คอนเทนเนอร์ และมังคุดจากจังหวัดนครศรีธรรมราช 1 ตู้คอนเทนเนอร์ มูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท ซึ่งในช่วงเดือนแรกนี้คาดว่าไทยจะสามารถผลักดันส่งออกผลไม้ไปจีนได้อย่าง น้อย 30 ล้านบาทต่อเดือน ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการไทยได้รับใบอนุญาตนำเข้าเพิ่มขึ้น ไทยจะสามารถระบายสินค้าผลไม้ส่งออกไปยังจีนได้ปริมาณมากขึ้น โดยเฉพาะผลไม้เศรษฐกิจหลัก เช่น ส้มโอ มังคุด ทุเรียน ลำไย ลิ้นจี่ และมะม่วง รวมถึงยางพารา คิดเป็นมูลค่าเดือนละไม่น้อยกว่า 100-200 ล้านบาท
นาย สมชายกล่าวเพิ่มเติมว่า ระหว่างลำเลียงสินค้าผ่านลาวและเวียดนาม จะไม่มีการเปิดตู้สินค้าตรวจสอบ เนื่องจากไทยได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจเรื่อง การขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภาคลุ่มน้ำโขง (GMS CBTA) ซึ่งเป็นความตกลงระหว่างประเทศที่มีเป้าหมายอำนวยความสะดวกแก่ยานพาหนะในการ ข้ามแดนระหว่างประเทศสมาชิกอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ประกอบด้วย 6 ประเทศในกลุ่มประชาคมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอาเซียน ได้แก่ พม่า ไทย ลาว เวียดนาม กัมพูชา และจีน ซึ่งอนุญาตให้รถขนส่งสินค้าสามารถวิ่งข้ามแดนของกันและกันสู่ประเทศปลายทาง โดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายและตรวจสอบสินค้า
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 20 กรกฎาคม 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=170936