เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 52
ปัจจุบันคนไทยหันมาใส่ใจในเรื่องของการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพกันมาก "ผักปลอดสารพิษ" จึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
เพื่อเป็นการช่วยเหลือเพิ่มช่องทางทำกิน มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ (มทร.สุวรรณภูมิ) จึงคิดพัฒนาต้นแบบชุดปลูกผักไร้ดินระบบไฮโดรโปนิกส์ขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถนำไปปลูกได้ง่ายที่บ้าน โดยใช้ต้นทุนเพียง 199 บาท สามารถเก็บเกี่ยวได้ใน 45 วัน
น.ส.รุจิรา สุริยา นักวิจัยสถาบันวิจัยและพัฒนา มทร.สุวรรณภูมิ อธิบายงานวิจัยชิ้นนี้ว่า ได้ทดลองกับการปลูกผักสลัดต่างประเทศ พบว่าผักมีการเจริญเติบโตปกติในสารละลายอาหารที่ได้ผ่านการทดลองมาแล้ว นอกจากนี้ทีมวิจัยยังได้คิดค้นสูตรธาตุอาหารที่เหมาะกับพืชผักแต่ละชนิด เพื่อใช้ในการปลูกพืชไฮโดรโปนิกส์อีกด้วย
น.ส.รุจิราเล่าว่า การปลูกผักโดยไม่ใช้ดินนี้เป็นเทคโนโลยีที่เคยมีมาก่อนแล้ว เพราะปัจจุบันกระแสการหันมาใส่ใจในสุขภาพของคนไทยมีมากขึ้น ผักปลอดสารพิษ ผักกางมุ้ง และผักไฮโดรโปนิกส์ จึงเป็นทางเลือกใหม่ของผู้บริโภคที่กำลังได้รับความนิยมขึ้นเป็นลำดับ นอกจากจะปลอดภัยจากสารพิษตกค้างแล้ว สีสันยังดูน่ารับประทาน และรสชาติดีอีกด้วย
นอกจากนั้นสถาบันวิจัยยังได้จัดทำโครงการคลินิกเทคโนโลยีเพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านการปลูกพืชไม่ใช้ดินให้แก่เกษตรกรและผู้ที่สนใจให้สามารถนำไปปลูก เพื่อบริโภคในครัวเรือนและจำหน่ายเป็นอาชีพได้
การปลูกพืชไม่ใช้ดินจึงเหมาะสมกับผู้ที่มีพื้นที่เพาะปลูกน้อย เช่น อาศัยในหมู่บ้านจัดสรร อพาร์ตเมนต์หรือห้องเช่าต่างๆ
ในช่วงที่ผ่านมาสถาบันวิจัยและพัฒนาได้นำเทคโนโลยีการปลูกพืชไม่ใช้ดินไปร่วมจัดแสดงและสาธิตออกหน่วยเคลื่อนที่ร่วมกับ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นประจำทุกเดือน เดือนละ 1 ครั้ง
และได้นำผลงานร่วมแสดงและให้บริการความรู้ในงาน "ราชมงคลสุวรรณภูมิแฟร์" ครั้งที่ 1 พบว่ามีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และต้องการให้สถาบันวิจัยและพัฒนาจัดอบรมการปลูกพืชไม่ใช้ดินให้
ที่ผ่านมาสถาบันวิจัยและพัฒนาได้อบรมการปลูกพืชไร้ดินไปแล้ว 2 รุ่นด้วยกัน และยังเป็นหลักสูตรหนึ่งของโครงการต้นกล้าอาชีพอีกด้วย
ด้านนางไสว เทศพันธ์ ผู้ดำเนินโครงการเปิดเผยว่า สำหรับผักที่นำมาปลูกด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์ ส่วนใหญ่จะเป็น ผักกวางตุ้ง และผักคะน้า เนื่องจากเป็นผักที่ใช้เวลาในการปลูกสั้น คือ ใช้เวลาปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 40-45 วันเท่านั้น ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว
สำหรับวิธีการปลูก 1.นำฟองน้ำสำหรับเพาะบรรจุใส่ถาดเพาะ แล้วรดน้ำให้ชุ่มก่อนนำไปเพาะ 2.ใช้ไม้ปลายแหลมจุ่มน้ำแล้วนำไปแตะกับเมล็ดพันธุ์ใส่ในฟองน้ำ 2-3 เมล็ด 3.นำผ้ามาคลุมถาดเพาะไว้ รดน้ำทั้งเช้าและเย็นเป็นระยะเวลา 3 วัน เมล็ดก็จะงอก
4.หลังจากนั้นให้นำผ้าคลุมถาดเพาะออกและนำไปอนุบาลในโรงเรือนอนุบาลต้นกล้า เป็นระยะเวลา 4 วัน ก็จะได้ต้นกล้าที่พร้อมปลูก หากไม่มีโรงเรือนให้นำมุ้งมากางแทนได้เช่นกัน 5.นำต้นกล้าที่เตรียมไว้ย้ายลงแปลงปลูก (ควรย้ายต้นกล้าในตอนเย็น) โดยให้สอดต้นกล้าเข้าทางด้านหลังของแผ่นปลูกอย่างระมัดระวัง
6.หลังปลูกหนึ่งวันให้เติมสารละลายธาตุอาหารตามความต้องการของพืชแต่ละชนิด พร้อมทั้งดูแลระบบน้ำตลอดอายุการเก็บเกี่ยว 7.ก่อนเก็บเกี่ยว 4-5 วันให้งดเติมสารละลายธาตุอาหารแต่ให้เติมน้ำเปล่าแทนเพื่อเป็นการลดความเข้ม ข้นของสารละลายธาตุอาหาร (อายุการเก็บเกี่ยวขึ้นอยู่กับชนิดของพืช)
ข้อดีของการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์คือ สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ และยังปลูกได้ในปริมาณมากในพื้นที่น้อย ใช้เวลาเก็บเกี่ยวสั้น โรคและแมลงน้อย ธาตุอาหารถูกนำไปใช้อย่างสูงสุด ลดการใช้แรงงานคน
สำหรับคนที่สนใจอยากได้ชุดปลูกผักไร้ดินระบบไฮโดรโปนิกส์ หรือข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อไปได้ที่ สถาบันวิจัยและพัฒนา มทร.สุวรรณภูมิ ศูนย์หันตรา โทรศัพท์ 0-3532-3620, 0-3524-2554 ต่อ 6401
เป็นอีกหนึ่งงานวิจัยเพื่อสังคมจากสถาบันการศึกษา
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด วันที่ 27 กรกฎาคม 2552
http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TURObFpIVXdOVEkzTURjMU1nPT0=§ionid=TURNeE5RPT0=&day=TWpBd09TMHdOeTB5Tnc9PQ==