เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 52
นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังและข้าวโพด ได้พิจารณากำหนดราคาประกันพืชทั้ง 2 ชนิด ตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) มีผลสรุปเรื่องต้นทุนการผลิตของเกษตรกร และการบวกค่าขนส่งโดยเฉลี่ย บวกกำไรอีก 25% ดังนี้
ราคาประกันมันสำปะหลังอยู่ที่ 1.70 บาทต่อกิโลกรัม โดยคิดจากเปอร์เซ็นต์แป้ง 25% ส่วนข้าวโพดมีการประกันราคาอยู่ที่ 7.10 บาทต่อกิโลกรัม ที่ความชื้นไม่เกิน 14.5% โดยการช่วยเหลือเกษตรกรของภาครัฐได้กำหนดให้เกษตรกร 1 ราย ปลูกมันสำปะหลังได้ไม่เกินรายละ 12 ตัน เช่นเดียวกับข้าวโพดที่จะมีการช่วยเหลือไม่เกิน 12 ตัน อย่างไรก็ตามอาจมีการขยายปริมาณความช่วยเหลือจาก 12 ตัน เป็น 15 ตัน ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาความเหมาะสม
นาย อภิชาติ กล่าวอีกว่า ผู้ที่จะได้รับการช่วยเหลือในการประกันราคา จะต้องเป็นเกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เท่านั้น ซึ่งในขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ กำลังอยู่ในระหว่างการขึ้นทะเบียนเกษตรกรทั่วประเทศ หากเกษตรกรรายใดที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน สามารถติต่อขอขึ้นทะเบียนได้ที่สำนักงานเกษตรทั่วประเทศ
ส่วนขั้นตอนการช่วยเหลือ จะดำเนินการโดยเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนแจ้งปริมาณการผลิตว่ามีจำนวนกี่ไร่ หลังจากนั้นกรมส่งเสริมการเกษตรจะออกใบรับรองว่าเกษตรกรที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้มีการผลิตสินค้าเกษตรตามที่แจ้งไว้จริง หากพืชผลการผลิตสินค้าเกษตรมีราคาตกต่ำกว่าราคาประกัน เกษตรกรสามารถนำใบรับรองไปขอรับส่วนต่างที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ทั่วประเทศได้ทันที
นอกจากนี้ ในส่วนของข้าวโพดจะมีการประกาศราคาอ้างอิง ซึ่งจะมีคณะกรรมการกำหนดราคาอ้างอิงอีกครั้งในทุก 3 วัน โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป ทั้งนี้หากราคารับซื้อมีราคาสูงกว่าราคาประกัน รัฐไม่จำเป็นต้องเข้าไปดำเนินการใดๆ แต่หากราคาต่ำเกษตรกรก็สามารถนำใบรับรองที่ได้จากกรมส่งเสริมการเกษตรไปขอรับเงินจาก ธกส. ได้ทันที
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 31 กรกฎาคม 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=172477