เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 52
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีพันธกรณีภายใต้ข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 ไทยต้องยกเลิกภาษีนำเข้าและยกเลิกมาตรการโควต้าภาษีสินค้าเกษตร ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เตรียมความพร้อมเพื่อไม่ให้ข้อตกลงฯส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรในประเทศ โดยมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) หารือผู้เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำมาตรการป้องกัน
ด้าน นายมณฑล เจียมเจริญ รองเลขาธิการ สศก. กล่าวว่า การเปิดการค้าเสรีคือการยกเลิกการอุดหนุน ยกเลิกการเก็บภาษี ยกเลิกการสนับสนุนการส่งออก จึงนับเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยมาก เนื่องจากเราเป็นประเทศเกษตรกรรมและมีศักยภาพในการผลิตสินค้าเกษตร เมื่อผลผลิตออกมาก็สามารถส่งออกได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกำแพงภาษีอีกต่อไป
"อย่างไรก็ตาม การเปิดการค้าเสรีไม่ใช่เราส่งออกไปข้างนอกอย่างเดียว เราต้องมีมาตรการในเชิงรับด้วยซึ่งขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ กำลังดำเนินการอยู่ เช่น ต้องกำหนดมาตรฐานสินค้าพร้อมทั้งมั่นใจว่าสินค้าเกษตรของเรามีมาตรฐานพอสมควร อีกทั้งยังต้องกำหนดมาตรฐานสินค้าอย่างเป็นรูปธรรม ถ้าใครส่งสินค้าเข้ามาต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่เรากำหนดไว้ นอกจากนี้ ยังต้องกำหนดมาตรฐานทางสุขอนามัย ในเรื่องของโรค แมลง สารพิษ และสารเคมี เราต้องหามาตรการกำหนดระดับไว้ หรือมีมาตรการภายใน โดยให้นำเข้าเฉพาะผู้ประกอบการบางราย เช่น เรื่องถั่วเหลือง ต้องนำเข้าโดยสมาคมผู้ใช้ถั่วเหลือง ซึ่งเราสามารถดูแลได้ว่าก่อนที่จะนำเข้าให้ดูแลสินค้าและราคาภายในด้วย ซึ่งมาตรการพวกนี้เราต้องคิด ต้องทำ เพื่อไม่ให้สินค้าจากประเทศอื่นไหลเข้ามาได้ง่าย" นายมณฑล กล่าว
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 3 สิงหาคม 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=172767