เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 52
นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยจวก ก.พาณิชย์ ให้ข่าวว่าข้าวไทยปนเปื้อนสารแคดเมียม ทุบตลาดราคาข้าวไทย และทำให้ข้าวไทยเสียชื่อ ลูกค้าไม่มั่นใจซื้อ ส่งผลกระทบระยะยาว..
วาน นี้ (4 ส.ค.) นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยถึงกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าข้าวไทยที่เพาะปลูกในพื้นที่แม่ตาว อ.แม่สอด จ.ตาก พื้นที่ประมาณ 13,000 ไร่ ปนเปื้อนสารแคดเมียม ว่า ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบใดๆ แต่เชื่อว่าเร็วๆ นี้ น่าจะมีการตรวจสอบการนำเข้าข้าวจากไทย โดยเฉพาะผู้นำเข้าจากตลาดเฉพาะ (Niche Market) เช่น สหรัฐฯ และยุโรป ที่จะมีความกังวลในส่วนของข้าวหอมมะลิ และญี่ปุ่นในส่วนข้าวเหนียว เพราะประเทศเหล่านี้เป็นห่วงปัญหาสารตกค้างอยู่แล้ว
นายชู เกียรติ ยังตำหนิรัฐบาลว่า ก่อนให้ข่าวรัฐบาลน่าจะหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องก่อน เพราะเป็นเรื่องอ่อนไหว และไม่น่าจะมีผลดีกับภาพลักษณ์ของข้าวไทย หากมีปัญหาตรงจุดใด รัฐบาลก็ควรแก้ไขปัญหาให้กระจ่างก่อนที่จะนำเสนอสู่สาธารณชน เพราะตลาดปลายทางที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงอาจเกิดความวิตกกังวล และนำเรื่องนี้มาเป็นเงื่อนไขการนำเข้าข้าวจากไทยจนเป็นเหตุให้ต้องมีการ ตรวจสอบการนำเข้าที่เข้มงวดขึ้น และนำไปสู่การเพิ่มต้นทุนของผู้ส่งออก แต่ที่สำคัญที่สุด คือ ภาพลักษณ์ข้าวไทยจะเสียหายจากการที่เกิดความเข้าใจผิด
ด้านนายธนพ ร ศรียากูล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การเปิดเผยข้อมูลสารแคดเมียมปนเปื้อนข้าว เพื่อต้องการนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ซุกไว้ใต้พรมมานานให้ลุล่วงโดยเร็ว ไม่มีเจตนาที่จะทำให้กระทบต่อราคาข้าวและไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องต่อธุรกิจ ข้าว ราคาข้าวขึ้นหรือลงน่าจะมาจากสาเหตุอื่นมากกว่าเรื่องนี้ และถ้าราคาลงจริงก็น่าจะเป็นระยะสั้น แต่ระยะยาวน่าจะเป็นผลดีต่อประเทศ เพราะหากรอให้ต่างชาติตรวจพบก่อน คงจะกระทบต่อภาพลักษณ์และการส่งออกไทยมากกว่านี้
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันที่ 5 สิงหาคม 2552
http://www.thairath.co.th/content/eco/24220