ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ ใน 'โครงการประกันราคาผลผลิต'
เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 52
ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจ ใน 'โครงการประกันราคาผลผลิต'
ปี2552 นี้ กรมส่งเสริมการเกษตรยกให้เป็นปีแห่งข้อมูลส่งเสริมการเกษตร โดยได้สนองนโยบายรัฐบาลในการจัดทำข้อมูลส่งเสริมการเกษตรให้ทันสมัย ถูกต้อง ครบถ้วน และใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งนอกจากจะเร่งขึ้นทะเบียนเกษตรกร (ทบก.) เป้าหมาย 5.7 ล้านครัวเรือน ทั่วประเทศแล้ว ยังมีแผนดำเนินการจดทะเบียนการปลูกพืชเศรษฐกิจหลัก 3 ชนิด (ทพศ.) เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการตรวจสอบการขอรับสิทธิในโครงการประกันราคาผลผลิต ซึ่งจะช่วยป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาสวมสิทธิเกษตรกรเพื่อหาผลประโยชน์ สร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติ
นายโอฬาร พิทักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า กรมส่งเสริมการเกษตรเร่งขึ้นทะเบียนผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจหลัก 3 ชนิด (ทพศ.) ได้แก่ ข้าวนาปี มันสำปะหลัง และ ข้าวโพด เลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2552/53 เพื่อให้ทราบจำนวนเกษตรกร เนื้อที่เพาะปลูก และประมาณการปริมาณผลผลิตพืชเศรษฐกิจทั้ง 3 ชนิด ซึ่งจะเป็นหลักฐานสำคัญให้เกษตรกรใช้ประกอบการรับการช่วยเหลือจากของรัฐบาล ตามโครงการแทรกแซงตลาดสินค้าเกษตร หรือโครงการประกันราคาผลผลิต ขณะเดียวกัน ทพศ.ยังสามารถช่วยปกป้องมิให้มีการสวมสิทธิเกษตรกรด้วย
เบื้องต้นกรมส่งเสริมการเกษตรได้เร่งขึ้นทะเบียนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ก่อน ปัจจุบันมีเกษตรกรมายื่นจดทะเบียนแล้ว จำนวน 154,878 ราย รวมพื้นที่ประมาณ 3 ล้านไร่ ใน 38 จังหวัด หรือประมาณ 49% จากเป้าหมายเกษตรกร 313,886 ราย พื้นที่ 6.6 ล้านไร่ทั่วประเทศ ซึ่งภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2552 คาดว่าจะขึ้นทะเบียนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้เสร็จสมบูรณ์พร้อมออกใบ รับรองให้เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการทำสัญญาประกันราคาขั้นต่ำกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ส่วนการขึ้นทะเบียนการปลูกมันสำปะหลังและข้าวนาปี จะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยให้เป็นไปตามความต้องการของเกษตรกรเป็นหลัก ปกติเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการประกันราคาผลผลิต ส่วนใหญ่จะรอการประกาศราคาขั้นต่ำของพืชที่ปลูก ซึ่งนับเป็นเรื่องสำคัญที่เกษตรกรใช้ในการตัดสินใจเข้าร่วมโครงการฯ สำหรับฤดูการผลิตปี 2552/53 รัฐบาลได้ประกาศราคาขั้นต่ำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กิโลกรัมละ 7.10 บาท (ความชื้นไม่เกิน 14.5%) ราคาขั้นต่ำหัวมันสด ประกันราคารับซื้อ กิโลกรัมละ 1.70 บาท และข้าวหอมมะลิ ประกันราคารับซื้อ 15,300 บาท/ตัน ข้าวหอมจังหวัดประกันราคารับซื้อ 13,300 บาท/ตัน และข้าวเหนียว ประกันราคาที่ 9,500 บาท/ตัน
สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่มีความต้องการเข้าร่วมโครงการประกันราคาผลผลิต ต้องรีบยื่นจดทะเบียน ทพศ.กับเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตร ณ สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือศูนย์บริการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล (ศบกต.) ศูนย์ฯละ 2 วัน/สัปดาห์ นอกจากนี้ยังสามารถขอขึ้นทะเบียน ทพศ.ได้กับผู้เก็บข้อมูลทะเบียนเกษตรกร (ทบก.) จำนวน 7,305 ราย ที่ดำเนินการขึ้นทะเบียนเกษตรกรรายครัวเรือนอยู่ในช่วงนี้ จากนั้นจะเร่งตรวจสอบข้อมูลโดยเร็ว เน้นความถูกต้อง รัดกุม และตรงตามความเป็นจริง
“การจัดเวทีประชาคม” เป็นกลไกตรวจสอบความถูกต้องที่มีประสิทธิภาพอีกแบบหนึ่งโดยคณะกรรมการตรวจ สอบระดับตำบลจะนำข้อสังเกตและสิ่งผิดปกติจากการตรวจเอกสาร ประกอบกับข้อมูลชุมชนเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อหาข้อสรุปจากชุมชนว่า มีการคัดค้านข้อมูลของเกษตรกรรายใดหรือไม่ ขณะเดียวกันยังมีการตรวจสอบพื้นที่จริงด้วย โดยเฉพาะรายที่ถูกคัดค้าน จะถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้นทุกราย ส่วนผู้ที่ไม่ถูกคัดค้าน คณะกรรมการฯ จะสุ่มตรวจพื้นที่จริง 10% ของจำนวนผู้ไม่ถูกคัดค้านทั้งหมด
ทพศ.เป็นระบบป้องกันการสวมสิทธิเกษตรกรที่มีความรัดกุมกว่าทุกครั้ง เพราะมีกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลหลายขั้นตอน ทั้งจากเอกสารหลักฐาน เวทีประชาคม และตรวจสอบจากพื้นที่จริง โดยคณะกรรมการตรวจสอบระดับตำบล ซึ่งมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ จะช่วยปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกรให้ดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม หากเกษตรกรผู้ปลูกข้าว มันสำปะหลัง และ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สนใจที่จะยื่นขึ้นทะเบียนการปลูกพืชเศรษฐกิจหลัก (ทพศ.) สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ ศูนย์ปฏิบัติการโครงการแทรกแซงตลาดสินค้าเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร โทร. 0-2579-6635 หรือสำนักงานเกษตรอำเภอ หรือ ศบกต. ทุกแห่ง.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 10 สิงหาคม 2552
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=344&contentID=13149
ข่าวที่เกี่ยวข้อง ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า