ปี 2555 ไทยแหล่งผลิตปลานิลชั้นนำของโลก
เมื่อวันที่ 3 กันยายน 52
ปี 2555 ไทยแหล่งผลิตปลานิลชั้นนำของโลก
ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมงจัดงานสัมมนา “ร่างยุทธศาสตร์
การพัฒนาปลานิลและแผนปฎิบัติงานโครงการยกระดับมาตรฐานฟาร์มเพาะเลี้ยงปลานิลเพื่อการส่งออก ตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 ภายใต้แผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2552 ที่ผ่านมา ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯ เพื่อชี้แจงร่างยุทธศาสตร์การพัฒนาปลานิล และแผนปฏิบัติงานโครงการยกระดับมาตรฐานฟาร์มเพาะเลี้ยงปลานิลเพื่อการส่งออก พร้อมทั้งทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่กรมประมง ผู้แทนเกษตรกร ชมรม สมาคมผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและผู้ประกอบการโรงงานแปรรูป ให้รับทราบถึงวิธีปฏิบัติงานให้สอดรับกับโครงการดังกล่าว เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตลอดสายการผลิตสามารถนำไปกำหนดวิธี บริหารจัดการรวมทั้งกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนในการพัฒนาปลานิลของไทยให้ได้มาตรฐานสากล โดยโครงการดังกล่าว กรมประมงได้รับการจัดสรรงบประมาณภายใต้แผนปฏิบัติการ ไทยเข้มแข็ง 2555 จำนวนทั้งสิ้น 379 ล้านบาท มีระยะดำเนินการ 3 ปี คือตั้งแต่ ปีพ.ศ. 2553-2555
นอกจากนี้แล้ว กรมประมงได้ลงนามบันทึกความตกลงในการทำงานแบบบูรณาการร่วมกันกับบริษัทห้องปฏิบัติกลาง (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อให้บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพปลานิลจากฟาร์มเพาะเลี้ยงปลานิลเชิงพาณิชย์ที่ต้องการพัฒนาเข้าสู่มาตรฐาน ระบบการผลิตที่ถูกต้องในฟาร์ม โดยพิจารณาตั้งแต่พื้นที่การปลูก การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว และการจัดการหลังเก็บเกี่ยว และร่วมกับบริษัท กสท. โทรคมนาคม (มหาชน) ในการพัฒนาระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมประมง เพื่อที่จะผลักดันอุตสาหกรรมปลานิลไทยให้ก้าวสู่ชั้นแนวหน้า และสมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย ก็ได้ทำความตกลงร่วมกับกลุ่มเกษตรผู้เพาะเลี้ยงปลานิลด้วยเช่นกัน
ทางด้าน ดร.จิราวรรณ แย้มประยูร รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า การดำเนินโครงการยกระดับมาตรฐานฟาร์มเพาะเลี้ยงปลานิลเพื่อการส่งออก ตามแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 เป็นยุทธศาสตร์ใหม่ที่ได้สานต่อความสำเร็จจากโครงการที่แล้ว โดยจะมีแนวทางการดำเนินงานในเชิงรุกมากยิ่งขึ้น
“ดังนั้น หากผู้เข้าร่วมสัมมนาในครั้งนี้ สามารถเข้าใจในความรู้ที่เราได้ถ่ายทอดและนำไปประยุกต์ใช้ เชื่อว่าสินค้าปลานิลของไทยจะได้มาตรฐานตรงตามความต้องการของประเทศผู้นำเข้า ซึ่งจะส่งผลเชิงบวก ในด้านการส่งออก อีกทั้งเกษตรกรให้ความใส่ใจและเห็นประโยชน์ของ การจัดทำระบบการผลิตที่ถูกต้องในฟาร์ม โดยพิจารณาตั้งแต่พื้นที่การปลูก การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว และการจัดการหลังเก็บเกี่ยว ย่อมเกิดผลดีต่อสุขภาพของผู้บริโภคอีกด้วย ซึ่งคาดว่าจะช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยกลายเป็นแหล่งผลิตปลานิลชั้นนำของโลก ได้ในอนาคต” รองอธิบดีกรมประมงกล่าว.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 3 กันยายน 2552
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=339&contentID=17848
ข่าวที่เกี่ยวข้อง ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า