เมื่อวันที่ 4 กันยายน 52
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เผยว่า ในปีงบประมาณ 2553 กระทรวงเกษตรฯ ได้รับการจัดสรรงบประมาณตามแผนการพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวน 2,521,052,960 บาท แบ่งเป็นงบปกติ 513,469,200 บาท และ งบประมาณตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 (แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2) 2,007,583,760 บาท เพื่อเร่งส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจความเป็นอยู่ของประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ ได้แก่ จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สตูล และสงขลา
โดยจะดำเนินงานใน 2 แผนหลัก คือ 1.แผนการยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตประชาชนในหมู่บ้านและ 2.แผนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการลงทุน โดยเน้นการจัดทำโครงการที่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่และความต้องการของประชาชน มีหมู่บ้านเป้าหมายซึ่งเป็นหมู่บ้านยากจนเป็นหลัก ก่อนขยายสู่หมู่บ้านที่เหลือให้ครบทุกหมู่บ้านในระยะเวลา 3 ปี เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น ยกระดับรายได้ครัวเรือนเฉลี่ยจาก 64,000 บาท/ปี เป็นไม่ต่ำกว่า 120,000 บาท/ปี
สำหรับโครงการที่กระทรวงเกษตรฯให้ความสำคัญในการพัฒนาอาชีพหลักในพื้นที่ ได้แก่ การส่งเสริมการปลูกปาล์มน้ำมัน การฟื้นฟูพื้นที่นาข้าวร้าง การส่งเสริมการปลูกยางพันธุ์ดี การส่งเสริมการเลี้ยงแพะเชิงพาณิชย์สู่อุตสาหกรรมฮาลาล การทำการประมง และการสร้างแหล่งอาศัยสัตว์ทะเล การก่อสร้างระบบชลประทาน เพื่อเพิ่มพื้นที่ชลประทาน รวมถึงการพัฒนาระบบการผลิตและการตลาดของผลไม้ภาคใต้ โดยกระทรวงเกษตรฯได้ดำเนินการใน 3 มาตรการหลัก ได้แก่ 1.บริหารจัดการคุณภาพผลผลิต 2.กระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิต 3.ส่งเสริมการตลาดและบริโภคผลไม้ ซึ่งผลการดำเนินงานในภาพรวมขณะนี้ ทำให้แนวโน้มสถานการณ์ผลไม้ภาคใต้มีราคาเริ่มสูงขึ้น เช่น ทุเรียน และลองกอง เป็นต้น ซึ่งจะมีการนำผลไม้และสินค้าเกษตรภาคใต้มาจัดแสดงและจำหน่ายในงาน "ของดีชายแดนภาคใต้" ระหว่างวันที่ 10-13 กันยายน ที่องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ด้วยเช่นกัน
ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า วันที่ 4 กันยายน 2552
http://www.naewna.com/news.asp?ID=177289