'ลุงสมาน' เลือกปลูกยางเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
เมื่อวันที่ 16 กันยายน 52
'ลุงสมาน' เลือกปลูกยางเพื่อชีวิตที่ดีกว่า
"ลุงสมาน ผิวแก้ว” เป็นชาวบ้านโป่งขาม ต.ห้วยสัก อ.เมือง จ.เชียงราย ซึ่งนับตั้งแต่จำความได้จนวัยล่วงเลยมาถึงอายุ 49 ปี ลุงสมานและครอบครัวก็ประกอบอาชีพทำสวนทำไร่มาเกือบค่อนชีวิต และตลอดเส้นทางดังกล่าวชีวิตของลุงสมานก็ต้องล้มลุกคลุกคลานไปกับความไม่คงที่ของราคาพืชผลที่สู้อุตส่าห์ลงทุนลงแรงปลูก แต่กลับขายไม่ได้ราคาจนหนี้สินล้นพ้นตัว
“มันเหนื่อยนะกับการที่ต้องมาคอยแก้ปัญหาหนี้สินที่เกิดจากความไม่แน่นอนของราคาพืชไร่และข้าวที่ปลูกอยู่เกือบทุกปี” ลุงสมาน เล่าด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่แฝงไปด้วยนัยให้คิดตามมาอย่างมากมาย เพราะสำหรับเกษตรกรที่ต้องพึ่งพาฟ้าฝน และขายผลผลิตได้เป็นฤดูกาล หรือเฉลี่ยปีละ 1-2 ครั้ง หากปีไหนราคาพืชผลขายได้ราคาก็ต้องถือว่าเป็นโชค แต่ปีไหนราคาตก นั่นก็เท่ากับว่า สิ่งที่ลงทุนลงแรงมาตลอดทั้งปี ต้องพบกับความสูญเปล่า หรือหากโชคร้ายกว่านั้น อาจยังต้องพกหนี้สินติดตัวไปจนกว่าจะขายผลผลิตได้ราคาในปีถัดไป
ขณะที่ทางออกซึ่งมีทางเลือกไม่กี่ทางของเกษตรกรที่ประสบปัญหาเดียวกัน ส่วนใหญ่มักจะลงเอยที่การหาอาชีพเสริม ตั้งแต่การรับจ้างทั่วไป การปลูกพืช เลี้ยงสัตว์อื่น ๆ เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของรายได้ หรืออีกทางหนึ่งก็คือ การหาลู่ทางปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชผลชนิดอื่นที่คาดว่า จะสามารถสร้างรายได้ที่คุ้มค่าและมั่นคงกว่าที่เคยทำมา
“ผมเลือกปลูกยาง” ลุงสมาน เล่าทางออกของตัวเอง “พอดีมีชาวบ้านที่อยู่ในละแวกเดียวกัน เขาเริ่มปลูกยางมาแล้วหลายปีและเริ่มมีการกรีดยางขาย ซึ่งผมเห็นว่ามันได้ผลผลิตดีและมีรายได้ที่แน่นอน ผมก็เลยลองไปถาม ๆ ศึกษาข้อมูลดูก็รู้สึกว่ามันน่าสนใจดี”
ดังนั้นเมื่อปี 2547 ซึ่งรัฐบาลในขณะนั้น ประกาศโครงการสนับสนุนการปลูกยางในภาคเหนือ และอีสานจำนวน 1 ล้านไร่ จึงทำให้ลุงสมานไม่ลังเล และเป็นเกษตรกรรายแรก ๆ ที่เข้าไปขอร่วมโครงการดังกล่าว โดยได้รับการสนับสนุนกล้ายางสำหรับปลูกจำนวน 10 ไร่
ลุงสมาน ยังเล่าอีกว่า นอกจากจะเข้าร่วมโครงการยางล้านไร่ของรัฐบาลแล้ว ยังยอมควักเงินก้นถุงของครอบครัวติดต่อขอซื้อกล้ายางจากบริษัทที่เป็นผู้ผลิตกล้ายางให้กับเกษตรกรในโครงการยางล้านไร่มาเพื่อปลูกที่ดินของตัวเองอีก 5 ไร่ ด้วยความหวังอยู่ลึก ๆ ว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า สวนยาง 15 ไร่ที่ลงแรงปลูกเอาไว้ จะให้ผลตอบแทนกฟลับมาอย่างคุ้มค่า
“ถึงวันนี้ผมจะยังต้องรอไปถึงปี 2553 ถึงจะเริ่มเปิดกรีดยางได้ แต่ผมก็คิดว่า ผมตัดสินใจไม่ผิดที่หันมาปลูกยาง เพราะต้นยางในสวนของผมโตดี และไม่มีปัญหาเรื่องโรคหรือแมลงมารบกวน”
ลุงสมาน เล่าอีกว่า ด้วยความคาดหวังกับสวนยาง ทำให้นอกจากจะต้องดูแลรักษาสวนยางอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการซึ่งได้รับการอบรมจากเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้แล้ว ทุก ๆ วัน ลุงสมาน จะต้องลงไปในสวนยางคอย ตัดหญ้า พูดคุยกับต้นยาง เอาใจใส่เหมือนเป็นลูกหลาน เพราะเชื่อมาเสมอว่า การปลูกพืชจะให้ผลผลิตที่ดีได้ จะต้องใส่ใจดูแลและไม่ทิ้งขว้างแม้แต่วันเดียว
“นี่ผมส่งลูกชายให้ไปอบรมเรื่องการกรีดยางกับ สกย. (สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง) ไปรอไว้แล้วนะ” ลุงสมาน พูดขึ้นมาแบบขำขันแต่ก็จริงจัง “พอถึงเวลาเปิดกรีดได้เมื่อไร จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนเรื่องหาคนกรีดยาง หรือต้องไปเสียค่าแรงจ้างคนมากรีด”
“แล้วถ้าโครงการนี้เริ่มกรีดได้เมื่อไรนะ จะต้องมีคนเสียดายแน่” ลุงสมาน ให้ความเห็นถึงโครงการยางล้านไร่ที่ตัวเองเข้าไปร่วมอย่างมั่นใจ เพราะหลังจากการหาข้อมูล รวมทั้งการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่และเจ้าของสวนยางจากภาคใต้ที่มาลงทุนซื้อที่ปลูกยางใน จ.เชียง ราย ต่างให้ความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า จ.เชียงราย มีความเหมาะสมกับการปลูกยางอยู่มาก ทำให้ต้นยางเจริญเติบโตดี
“ผมยังคิดไว้เลยว่า ถ้ากรีดยางขายได้สตางค์มาเมื่อไร อาจจะตัดสินใจมาปลูกยางเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นมรดกให้ลูกให้หลาน เพราะยางมีอายุเก็บเกี่ยวนาน 20-25 ปี พอถึงเวลาต้องโค่นสวนทิ้งก็ยังขายไม้ได้อีก ซึ่งมันก็น่าจะทำให้ชีวิตลูกหลานของผมดีขึ้น ไม่ต้องลำบากเหมือนกับที่ผมเคยเจอมาก่อน”
เรื่องราวของ “ลุงสมาน” อาจเป็นเพียงเสี้ยวเล็ก ๆ ในสังคมใหญ่ แต่เสี้ยวเล็ก ๆ ดังกล่าวก็สะท้อนให้เห็นถึงสภาพชีวิตของเกษตรกรจำนวนมาก ที่ยังคงใช้ชีวิตอยู่กับความหวังที่มีต่อพืชผลที่ตัวเองเพาะปลูก ซึ่งปัจจุบันแม้ “การปลูกยางพารา” จะไม่ได้ เป็นเพียง “ทางเลือก” เดียวของเกษตรกรไทย อย่างน้อยโครงการนำร่องปลูกยางใหม่ในภาคเหนือและอีสานตั้งแต่ปี 2532 เป็นต้นมา ทำให้เห็นเค้าลางความสำเร็จที่รออยู่ข้างหน้า ซึ่งจะจริงหรือไม่ ต้องคอยดูกันต่อไป.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 16 กันยายน 2552
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=347&contentID=20434
ข่าวที่เกี่ยวข้อง ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า