คาดภัยธรรมชาติรุนแรงขึ้น เตือนเกษตรกรรับมือ
เมื่อวันที่ 28 กันยายน 52
คาดภัยธรรมชาติรุนแรงขึ้น เตือนเกษตรกรรับมือ
ภัยธรรมชาติช่วงนี้เริ่มปรากฏให้เห็นอยู่เป็นระยะ ทั้งน้ำท่วม ฝนแล้ง และโรคแมลงระบาดทำลายพืชผลทางการเกษตร ซึ่งปัจจัยเกื้อหนุนที่ทำให้สถานการณ์ภัยธรรมชาติเหล่านี้ทวีความรุนแรงมาก ขึ้นคงจะหลีกเลี่ยงเรื่องของภาวะโลกร้อนไปไม่ได้ ที่สำคัญหลายหน่วยงานยังวิเคราะห์ออกมาว่าสถานการณ์ภัยธรรมชาติต่อจากนี้จะรุนแรงยิ่งขึ้น
นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ในฐานะโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นตอนนี้ โดยเฉพาะน้ำท่วมจะเป็นลักษณะมาเร็วไปเร็ว ไม่ท่วมขังนาน ส่วนสถานการณ์ภัยแล้งนั้นคาดว่าจะรุนแรงมากขึ้น เพราะเชื่อว่าปีนี้จะได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญ่ ส่งผลให้เกิดความแห้งแล้ง และถ้าฝนทิ้งช่วงหรือไม่ตกที่เหนือเขื่อน ก็จะมีปริมาณน้ำในเขื่อนไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้น ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรฯ เข้มงวดกับเจ้าหน้าที่ในระดับจังหวัดเร่งดำเนินการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินสถานการณ์ พร้อมแจ้งสถานการณ์มายังศูนย์อำนวยการติดตามภัยธรรมชาติเป็นรายสัปดาห์
นอกจากภัยธรรมชาติแล้ว เรื่องโรคแมลงก็สำคัญ โดยเฉพาะเพลี้ยแป้งที่กำลังแพร่ระบาดทำลายไร่มันสำปะหลังไปทั่วประเทศ ขยายวงกว้างไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ล้านไร่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนครราชสีมา แหล่งผลิตมันสำปะหลังที่ใหญ่ของประเทศได้รับผลกระทบจากเพลี้ยแป้งระบาดไป แล้วประมาณ 3-4 แสนไร่ ซึ่งขณะนี้กระทรวงเกษตรฯ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมส่งเสริมการเกษตร เข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเน้นการร่วมมือแบบบูรณาการทั้งภาครัฐ เอกชนและเกษตรกร ส่วนกรมวิชาการเกษตร มีหน้าที่เข้าไปส่งเสริมด้านเทคนิคการปลูกและวิธีดูแลรักษาผลผลิต เพื่อป้องกันเยียวยาพื้นที่ที่ประสบปัญหา
“สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังที่กำลังประสบปัญหาเพลี้ยแป้งระบาดในพื้นที่ของตัวเองแล้ว อยากให้ตัดใจโค่นทำลายทิ้ง อย่าเสียดาย เพราะถึงแม้จะเก็บไว้ก็จะได้ผลผลิตไม่มีคุณภาพ ที่สำคัญยังเป็นตัวการในการแพร่กระจายโรคไปสู่แปลงอื่นได้ด้วย ดังนั้น ขอให้เชื่อคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะถ้าจะปลูกใหม่อยากให้ซื้อท่อนพันธุ์ที่มีคุณภาพ และชุบน้ำยาป้องกันโรคก่อนที่จะปลูก และหมั่นดูแลรักษาให้ดี อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่าผลผลิตมันสำปะหลังในปีนี้จะลดลงอย่างมาก ขณะที่ความต้องการยังมีสูง ส่งผลให้แนวโน้มราคาสูงขึ้นด้วย จึงอยากให้เกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลังและยังไม่พบโรคแมลงดูแลรักษาผลผลิตของตัวเองให้ดี เพราะเป็นโอกาสทองที่จะช่วยสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ”
ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติทั้ง ฝนแล้ง น้ำท่วม และโรคแมลงที่มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น ล้วนมีผลกระทบมาจากภาวะโลกร้อนทั้งสิ้น ถ้าเราไม่เตรียมการป้องกันตั้งแต่ตอนนี้จะส่งผลเสียต่อเกษตรกรและผล ผลิตอย่างแน่นอน ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ในฐานะที่ดูแลความเป็นอยู่ของเกษตรกรทั่วประเทศไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าว โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาภัยธรรมชาติอย่างเร่งด่วน
แม้จะมีหน่วยงานรัฐคอยดูแลช่วยเหลือ แต่เกษตรกรซึ่งเป็นผู้ที่จะได้รับผลกระทบโดยตรง จึงควรที่จะดูแลช่วยเหลือตัวเองด้วย.
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 28 กันยายน 2552
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=344&contentID=22757
ข่าวที่เกี่ยวข้อง ทางเลือก-ทางรอดเกษตรกรรมไทยในปี 2553
มันสำปะหลังทุบสถิติส่งท้ายปี สูงเกินราคาประกันรัฐบาล คาดปีหน้ายังพุ่งขึ้นต่อเนื่อง
เตือนภัย เพลี้ยแป้งระบาดในมันสำปะหลัง
อียูลดค่าสีผสมอาหาร 3 ชนิด
สศก.เปิดเผยศึกษาลำไยนอกฤดู ยันเกษตรกรได้รับผลคุ้มค่า แนะตั้งกลุ่มส่งเสริมจริงจัง
โอกาสของเกษตรกรรายย่อยในการรับรองฟาร์มแบบกลุ่ม
มะนาวพันธุ์ 'แป้นดกพิเศษ' ดกกว่าพันธุ์แป้นรำไพ 2-3 เท่า